กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-บริเวณริมคลองหลอด หน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร มีต้นตะเคียนอายุกว่า 200 ปี ที่ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 5 ต้น ทุกหน่วยงานจึงบูรณาการร่วมกันในการอนุรักษ์
ต้นตะเคียนโบราณสูงใหญ่ อายุมากกว่า 200 ปี ทั้ง 5 ต้น ที่ตั้งตระหง่านเรียงรายอยู่ริมคลองหลอด หน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร มีการสันนิษฐานว่าปลูกไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อนำลำต้นมาทำเป็นเรือรบ จึงได้ชื่อว่าต้นตะเคียนเรือรบ
พระครูพิลาศสรธรรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรมหาวิหาร เมตตาให้ข้อมูลว่าต้นตะเคียนเหล่านี้มีมาก่อนสถาปนาวัด นอกจากปลูกไว้ใช้ทำเรือรบ ยังเป็นแนวป้องกันข้าศึกศัตรูตามแนวคูเมืองก่อนถึงกำแพงเมืองอีกด้วย แม้ช่วงหลังไม่ได้ใช้ทำเรือรบ ต้นตะเคียนเหล่านี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวบ้านที่ผูกพันกับสายน้ำ เมื่อช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ต้นตะเคียนถูกฟ้าผ่าตายไปอีก 1 ต้น จึงเหลืออยู่เพียง 4 ต้น ชาวบ้านที่นี่หลายคนบอกว่ารู้สึกเหมือนเสียญาติผู้ใหญ่ไป จึงอยากให้ดูแลต้นตะเคียนที่ยังเหลืออยู่
ทุกๆ เดือนเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครจะเข้ามาดูแลต้นตะเคียน รวมทั้งต้นไม้อื่นๆ ตลอด 2 กิโลเมตร แนวคูเมือง ทั้งใส่ปุ๋ย พรวนดิน ตัดแต่งกิ่ง โดยมีรุกขกรให้คำแนะนำ โดยเฉพาะการกำจัดกาฝาก ต้องใช้วิธีถอนดึงเท่านั้น ไม่สามารถหยอดยากำจัดรากได้ เนื่องจากต้นตะเคียนอายุหลายร้อยปี อาจส่งผลถึงเนื้อไม้ไปด้วย และยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษช่วงหน้าฝน
ทางเขตพระนครยังให้ข้อมูลว่า น้ำในคูเมืองเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงน้ำทะเลหนุนจะทำให้น้ำในคูเมืองเป็นน้ำกร่อย ซึ่งไม่เป็นผลดีกับต้นไม้ใหญ่ ตอนนี้มีการปลูกต้นตะเคียนทดแทนของเดิมที่ตายไป ขณะที่การอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ ยังเป็นหนึ่งในแนวทางฟื้นฟูคูเมือง ที่อยากให้ปลูกต้นตะเคียน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีการปลูกมาแต่โบราณ แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่าอาจไม่เหมาะกับสภาพปัจจุบัน ทั้งกิ่งก้านที่แผ่ขยาย หรือ รากต้นไม้ ที่อาจส่งผลกับทางเท้า ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย