ไทยรับมือสถานการณ์โจมตีเรือน้ำมัน ยืนยันไม่ขาดแคลน

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-ไทยพร้อมรับมือสถานการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลาง ยืนยันน้ำมันและก๊าซไม่ขาดแคลน 



                        


      เป็นที่ทราบดีช่องแคบฮอร์มุส เป็นจุดที่ขนส่งน้ำมันป้อนตลาดโลกร้อยละ20 และเป็นส่วนที่ส่งน้ำมันดิบมายังไทยร้อยละ 60 ของความต้องการใช้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดังนั้น กระทรวงพลังงาน ก็เตรียมแผนรับมือวิกฤติสั่งให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อม อย่างไรก็ตามที่ ตามรายงานข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่าเหตุการโจมตีเรือ ในอ่าวโอมาน วานนี้ 2 ลำ  1 ลำคือ  เรือ Kokuka Courageous สัญชาติ ญี่ปุ่นออกเดินทางจากซาอุดีอาระเบีย มุ่งหน้าสู่ไทย และสิงคโปร์ นั้น จากการตรวจสอบ โรงกลั่นน้ำมันต่างๆในไทย ก็ได้รับคำยืนยันว่า เรือดังกล่าว ไม่ได้ส่งน้ำมันให้กับประเทศไทยแต่อย่างใด  โดยเรือดังกล่าว เป็นเรือบรรทุกแนฟทา และเมทานอล  เป็นเรือขนส่งสินค้าจากตะวันออกกลางไปยังสิงคโปร์และไต้หวัน  

          อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ โรงกลั่นของไทย ก็ได้กำชับผู้ขนส่งน้ำมันให้มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยสัญญาการซื้อขายน้ำมันดิบนั้นเป็นสัญญาล่วงหน้า 2 เดือน ก็คงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนไปสั่งจากประเทศอื่นได้ทันที     อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์โจมตีในตะวันกลาง นับเป็นระลอกที่ 2แล้ว ระลอกแรกเกิดเมื่อ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา เรือ 4 ลำถูกโจมตี และส่วนหนึ่งเป็นเรือของซาอุดีอาระเบีย 

ช่วงนั้น ก็ทำให้ตลาดตกใจ ราคาน้ำมันดิบถีบตัวขึ้นไปถึง 72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันของไทยก็ขยับขึ้นตามต่อเนื่อง แต่พอเหตุการณ์หายตกใจประกอบกับ สหรัฐผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานขึ้นมาพุ่งพรวดถึง 12 ล้านบาร์เรล/วัน และเหตุการณ์ตลาดหวั่นเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเพราะพิษสงครามการค้าสหรัฐและจีนกดดัน ก็ทำให้ราคาน้ำมันไถลลงต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุวานนี้ คือราคาปิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ราคาดิ่งต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ราคาเวสต์เท็กซัส  ปิดไปที่ประมาณ 51 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบดูไบและเบรนท์ ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรล เราก็เลยได้เห็นราคาน้ำมันในไทยลดลงตอ่เนื่อง 7 ครั้งรวม 2.40-2.50 บาท/ลิตร


   ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุครั้งนี้ก็เลยมีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นแต่ก็ไม่แรงมากนัก เพราะโลกหวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว  อย่างไรก็ตาม คำแนะนำก็คือ ช่วงนี้ เติมน้ำมันเต็มถัง..   ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลง 5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในประเทศ 1 บาทต่อลิตร และหากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทรวงพลังงานยังมีเงินจากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเกือบ 40,000 ล้านบาท ไว้ดูแลเสถียรภาพ ไม่ให้ราคาปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเงินดังกล่าวสามารถดูแล ดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ได้ประมาณ 30 วัน โดยราคาน้ำมันน้ำมันดิบต้องอยู่ระดับไม่เกิน 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล 

     สำหรับ การ เตรียมพร้อมรับมือ สถานการณ์ ทางกระทรวงพลังงาน  ก็ได้สั่งการให้ติดตาม สถานการณ์โลกใกล้ชิด ตามแผนงานรับมือวิกฤติการณ์ที่เตรียมไว้มาใช้ต่อเนื่อง วันนี้ก็มีการประชุมอีกรอบ  นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า มีทั้งมาตรการธงเหลือ และธงแดงพร้อมรับมือหากเหตุการณ์รุนแรง ตอนนี้ ใช้ระดับธงเหลือง เท่านั้น ส่วน ธงแดง ก็ซ้อมไว้กรณีปิดช่องแคบฮอร์มุส ซึ่ง ไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยหากปิดแล้วขาดแคลนจริงถึงนำมาใช้ เช่นการการปันส่วนน้ำมันเป็นต้น           สำหรับธงเหลืองที่ใช้ในขณะนี้คือ ให้ทางโรงกลั่นน้ำมันต่างๆก็ต้องรายงานสต๊อกน้ำมันตอ่เนื่องมาตั้งแต่รอบที่แล้ว โดยจากการ สอบทานปริมาณสต๊อกน้ำมันสำรองในประเทศ ยืนยันไร้ปัญหา  โดยสำรองน้ำมัน ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป มีทั้งหมด ใช้ได้เกือบ 2 เดือน  หรือ ประมาณ 50  แยกเป็น สำรองน้ำมันสำเร็จรูป ในส่วน  เบนซิน มีสำรองถึง  12 วัน, ดีเซลสำรอง 13 วัน รวมปริมาณสำรองน้ำมันทั้งหมดเพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวม 50 วัน  ในด้านน้ำมันดิบ พบว่าเพียงพอต่อการใช้ เพื่อผลิตป้อนตามความต้องการได้ 24 วัน และอยู่ระหว่างขนส่งทางเรือได้อีก 13 วัน  ในขณะเดียวกัน จากที่เดือนพฤษภาคมีคำสั่งให้เตรียมน้ำมันดิบในไทยให้สำรองมากที่สุด  ก็พบว่าสามารถผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทจากแหล่งในประเทศ ป้อนความต้องการใช้ได้ประมาณ ร้อยละ35 ของความต้องการใช้เลยทีเดียว    ในขณะที่มีสต๊อก LPG  หรือก๊าซหุงต้ม พร้อมใช้สำหรับครัวเรือนถึง 20 วัน   โดยในส่วนของ โรงแยกก๊าซฯของ บมจ. ปตท. นั้นสามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในภาคครัวเรือนโดยไม่ขาดแคลน 

       ไปอีกน้ำมันอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องน้ำมันในครัวเรือน คือน้ำมันปาล์ม ขวด  นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่ากรมฯไม่ได้สั่งให้ห้างสรรพสินค้าขึ้นราคาน้ำมันปาล์มขวดแต่ขอความร่วมมือไม่จัดโปรโมชั่นลดราคาที่หลายห้างจัดที่ ราคาเฉลี่ย 25-26 บาทสำหรับปาล์มขวดขนาด1 ลิตร  เนื่องจากหากราคาต่ำกว่าราคาต้นทุน ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 34-35 บาท / ขวด  จะส่งผลต่อเกษตรกร   ซึ่งขณะนี้ ทุกฝ่ายได้พยายามดำเนินการให้ราคาผลปาล์มสูงขึ้น จากเดืนพฤษภาคม  ที่ราคาผลปาล์มอยู่ที่ 2.20-2.50 บาท/กก. มาอยู่ที่ 3.50 บาท/กก. ในขณะนี้ 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง