ทหารคุม 15 ผู้ต้องหาคดีระเบิดส่งกองปราบ

กทม. 19 ส.ค.- ทหารคุม 15 ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ส่งตำรวจกองปราบ ยังปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้


ทหารควบคุมตัว 15 ผู้ต้องหา คดีมั่วสุมเกิน 5 คน หรืออั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. จากมณฑลทหารบกที่ 11 มาส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังศาลทหารกรุงเทพอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเมื่อวานที่ผ่านมา หลังพบหลักฐานความเชื่อมโยงเหตุวางเพลิงและระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้เมื่อ 12 สิงหาคม

โดยมีพลตำรวจตรีเชาวลิต แสงแหวงพีช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสอนกลาง, พลตำตรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงาน อาชญากรรม สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ และพลตำรวจตรีสมบัติ มิลินทจินดา ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลชุดคลี่คลายคดี มาร่วมสอบปากคำและสอบคำให้การ ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ซึ่งประกอบด้วย 1.ด.ต.ศิริรัตน์ มโนรัตน์ อายุ 71 ปี ชาว จ.พัทลุง, 2.นายวีระชัฏฐ์ จันทร์สะอาด อายุ 62 ปี ชาว จ.นนทบุรี, 3.นายประพาส โรจนพิทักษ์ อายุ 67 ปี ชาว จ.ตรัง, 4.นายปราโมทย์ สังหาญ อายุ 63 ปี ชาว จ.สตูล, 5.นายสรศักดิ์ ดิษปรีชา อายุ 49 ปี กทม., 6.นางสาวมีนา แสงศรี อายุ 39 ปี กทม., 7.นายศิริฐาโรจน์ จินดา อายุ 56 ปี ชาว จ.หนองคาย, 8.นายชินวร ทิพย์นวล อายุ 71 ปี ชาว จ.เชียงราย, 9.นายณรงค์ ผดุงศักดิ์ อายุ 60 ปี ชาว จ.อ่างทอง, 10.นายศรวัชษ์ กุระจินดา อายุ 60 ปี ชาว จ.มหาสารคาม, 11.นายเหนือไพร เซ็นกลาง อายุ 41 ปี, 12.นายวิเชียร เจียมสวัสดิ์ อายุ 59 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช, 13.นายบุญภพ เวียงสมุทร อายุ 61 ปี ชาว จ.เชียงราย, 14.นางสาวรุจิยา เสาสมภพ อายุ 52 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด, 15.นายวิโรจน์ ยอดเจริญ อายุ 67 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช


ผู้ต้องหาทั้งหมดยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมให้การภาคเสธ ยอมรับเป็นสมาชิกของพรรคปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่มีแนวคิดต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐบาล แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงและวางระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้

ด้านพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 2 ข้อหาประกอบด้วยอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ส่วนนายสรศักดิ์ ถูกแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือครอบครองอาวุธปืนสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังตรวจค้นบ้านพักย่านทับช้าง พบปืนอาก้า และกระสุนอีก 31 นัดก่อน พร้อมสอบคำให้การ ก่อนตรวจร่างกายและทำประวัติอาชญากร พิมพ์ลายนิ้วมือ เตรียมส่งศาลทหารกรุงเทพ บ่ายวันนี้

ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนประกอบด้วย ร.ต.ต.หญิง วิลัยวรรณ คูณสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาว จ.หนองคาย และ ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาว จ.หนองคาย อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง