สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 13 มิ.ย.-สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา ฯตามความคืบหน้าแก้ไขวีดีทัศน์เพลงชาติไทย 1 เดือน เรื่องไม่เดิน เร่งผู้ตรวจฯต้องคืบหน้าใน 7 วัน
สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำโดยน.ส.พาศิกา สุวจันทร์ พร้อมตัวแทนจาก 4 ภาค เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่ยื่นเรื่องเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการจัดทำภาพวีดีทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2562 ที่ไม่ปรากฏภาพที่สื่อเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย และขอให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีระงับการเผยแพร่วีดีทัศน์ดังกล่าวทันที โดยขอให้นำวีดีทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยฉบับเดิมมาเผยแพร่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
น.ส.พาศิกา กล่าวว่า หลังจากสมาคมฯได้ยื่นเรื่องทางสำนักปลัดสำนักนายกได้มีการแก้ไขวีดีทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยฉบับปรังปรุง พ.ศ.2562 โดยนำภาพพระพุทธรูปเข้ามาใส่ไว้ในวิดัทัศน์แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯไม่ได้เรียกร้องเรื่องศาสนา แต่ต้องการเรียกร้องสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยกลับคืนมา โดยเสนอว่าควรจะเป็นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งทุกคนเห็นจะทราบทันทีว่านี่คือประเทศไทย
“ไม่ใช่ไปเอาภาพพระมาใส่หรือให้ใครมายืนร้องเพลง หรือมีภาพยืนร้องเพลงอยู่บนเรือ ในข้อเท็จจริงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว วีดีทัศน์นี้จึงเปลี่ยนรากเหง้าความเป็นไทย เป็นวีดีทัศน์ที่ไม่มีรากเหง้า เราเรียกเพลงชาติเวอร์ชั่นนี้ว่าไม่มีราก ผู้ตรวจการแผ่นดินควรจะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญต้องเร่งแก้ไข แต่ขณะนี้เวลาผ่านไป 1 เดือนแล้วนับตั้งแต่ส่งเรื่องร้องเรียน แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ การที่สำนักงานส่งเสริมเอกลักษณ์แก้ไขวีดีทัศน์ด้วยการนำพระพุทธรูปมาแปะใส่เข้ามา เป็นการทำแบบสุกเอาเผากิน มักง่าย เด็กมัธยมยังทำได้ดีเสียกว่า เราไม่ได้ต้องการพระพุทธรูป พระสงฆ์ เพราะเรารู้ว่าคนในชาติประกอบด้วยหลายศาสนา แต่เราต้องการสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็นชาติ แล้ววีดีทัศน์นี้เผยแพร่ทุกวัน จะทำให้เกิดความเคยชินไปเรื่อยๆ เหมือนยัดเยียดให้เราจำสิ่งใหม่ และถ้าแก้ไขช้ามันเป็นความเสียหายของชาติ ทำให้ต่อไปจะไม่รู้สึกภาคภูมิในความเป็นชาติ” น.ส.พาศิกา กล่าว
น.ส.พาศิกา กล่าวว่า การแก้ไขเรื่องนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่นำวีดีทัศน์เพลงชาติฉบับเดิมมาปรับปรุง เปลี่ยนภาพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ก็สามารถเผยแพร่ได้แล้ว เพราะเนื้อหาของวีดีทัศน์สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาติอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลต้องไปทำใหม่
ด้านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กล่าวว่าเรื่องที่สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาฯ ร้องเรียน ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังอยู่ระหว่างรอคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนประเด็นที่สมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาฯ ขอให้ผู้ตรวจฯ สั่งระงับการเผยแพร่วีดีทัศน์ดังกล่าว กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจผู้ตรวจฯ ดำเนินการเช่นนั้น ผู้ตรวจฯ มีอำนาจแสวงหาข้อเท็จจริงตรวจสอบให้ได้ข้อยุติว่าทำไมหน่วยงานไม่ดำเนินการตามที่มีข้อร้องเรียน
“ทางสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาฯ พยายามซักถามว่าหากผู้ตรวจฯ ไม่มีอำนาจ แล้วหน่วยงานใดที่มีอำนาจดำเนินการ ทางสมาคมฯ ยื่นร้องเรื่องนี้ผ่านมา 30 วันแล้ว ทำไมยังแค่เพียงอยู่ในขั้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง ซึ่งได้ชี้แจงว่าขอให้ใจเย็น ทางผู้ตรวจฯ ทราบว่าเป็นเรื่องสำคัญและพยายามเร่งแล้ว คาดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะมีความคืบหน้า ซึ่งทางสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาฯ บอกว่า 1 เดือนช้าเกินไป ต้องมีความคืบหน้าภายใน 7 วัน แล้วจะมาติดตามอีกครั้ง” นายปิยะ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
