รัฐสภาใหม่ 13 มิ.ย.- ส.ส.เพื่อไทย มอง “รัฐบาลประยุทธ์” อยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกลไกกฎหมายที่วางไว้ก่อนหน้านี้ เชื่อแม้เกิดปัญหา จะไม่มียุบสภา แต่ตั้งคนอื่นเป็นนายกฯ สืบทอดอำนาจแทน เตรียมเสนอญัตติด่วนให้สภาฯ ตั้ง กมธ.ตรวจสอบที่มา ส.ว.ในสัปดาห์นี้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล ว่า หากติดตามการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จนถึงขณะนี้ มีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วร้อยละ 80-90 เท่าที่ดูคือทุกฝ่าย ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหากเป็นการเลือกตั้งตามปกติ รัฐบาลแบบนี้จะอยู่ไม่นาน เพราะเสียงปริ่มน้ำ แต่สิ่งที่เป็นขณะนี้ คือ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ มีบางกฎหมายที่ออกโดยมาตรา 44 ก่อนหน้านี้ที่สามารถบังคับใช้ได้ ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลมีอยู่ในมือ จึงทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะอยู่ได้นานและควบคุมพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่กล้าแตกแถว และเป็นช่องทางในการโจมตีฝ่ายค้าน ทั้งนี้ หากมีปัญหา ก็เชื่อว่าจะไม่ยุบสภา เพราะทางออกสุดท้ายเมื่อยามเกิดปัญหา คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีคนที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจต่อกันมา
“เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเต็มที่ แต่นักวิชาการหลายคนบอกว่าฝ่ายค้านเป็นเป็ดง่อย เนื่องจากกระบวนการการตรวจสอบต้องมีจุดเชื่อมโยงกับองค์กรการตรวจสอบ แต่ฝ่ายค้านไม่สามารถเชื่อมโยงได้ แต่ก็ไม่เป็นไร สิ่งที่ฝ่ายค้านทำ คือ จะบอกกล่าวกับประชาชน ให้เสียงของประชาชนดำเนินการการจัดการ ซึ่งยอมรับว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านดำเนินการอยู่ขณะนี้ แม้จะไม่สามารถส่งผลไปถึงฝ่ายบริหารได้ แต่คือการทำให้ประชาชนเห็น และเป็นเป้าหมายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จะเสนอญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบเรื่องที่มาและการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่าชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันที่ 19 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จากนั้นในช่วงบ่าย จึงเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งหากญัตติด่วนของฝ่ายค้านไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระ ก็จะเสนอด้วยวาจาในการประชุม.-สำนักข่าวไทย