ชลบุรี 10 มิ.ย.-หญิงสาววัย 21 ปี ร้องเรียนสื่อมวลชนถูก รพ.ดังในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปคลอดที่ รพ.อื่น แต่ท้ายสุดไปไม่ทันและแท้งลูก ล่าสุดขณะนี้รพ.ดังกล่าวกำลังประชุมด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงต่อสังคม
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน น.ส.จินดารัตน์ อินทรสิงห์ อายุ 21 ปี และสามี ว่าติดใจ รพ.ดังแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อย่างมาก และเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกในครรภ์วัย 33 สัปดาห์เสียชีวิต และใช้คำพูดที่ไม่น่าฟังในวันที่เดินทางไปตรวจร่างกาย เพราะเจ็บท้องคลอด
น.ส.จินดารัตน์ บอกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. โดยตนเองรู้สึกเจ็บท้องและมีเลือดไหลออกทางช่องคลอด จึงขี่รถจักรยายนต์ไปที่ รพ.ดังกล่าว ระยะทาง 30 กม. จึงได้จอดรถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทยา แต่พอมาถึง รพ. กลับมีเจ้าหน้าที่ 2 คนเข้ามาสอบถามหาสมุดฝากครรภ์และบอกว่า “ยังไม่ครบกำหนดคลอด” และหากจะคลอดก่อนกำหนด ต้องส่งตัวไปต่างจังหวัด เพราะรพ.ไม่มีตู้อบ จากนั้นจึงมีการตรวจปัสสาวะและฟังเสียงหัวใจเด็ก โดยปรากฏว่าหัวใจเด็กเต้นช้าลง และแพทย์แจ้งว่ามีความดันสูง
ต่อมาเวลา 05.00 น. ทีมพยายามได้แจ้งว่าตนเองมีความดันสูงและมีสิทธิ์รักษาที่ รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา จึงมีการแนะนำไปที่นั่น ซึ่งในขณะนั้นคิดว่า รพ.ดังกล่าวสามารถทำเรื่องส่งตัวให้ได้ แต่ท้ายสุดได้แต่เพียงใบเสร็จและบอกให้รีบไป ทั้งๆ ที่ตนเองขี่รถจักรยานยนต์มา จึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านและอาศัยรถเพื่อนไปที่ รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา กระทั่งเมื่อมาถึง รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา ได้ถูกพาไปยังห้องคลอด จากนั้นทีมแพทย์ได้ตรวจชีพจรของเด็กในครรภ์แล้วไม่พบ และแพทย์ได้แจ้งว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว จึงสงสัยว่าเหตุใด รพ. ต้นทางไม่ทำเรื่องส่งตัว อีกทั้งเหตุใดต้องไล่ไปที่อื่น ทั้งที่ฝากครรภ์อยู่ที่ รพ.ดังกล่าว
น.ส.จินดารัตน์ อินทรสิงห์ บอกอีกว่า ศพของลูกนั้นได้มอบให้ทาง รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา ดูแลจัดการให้ เนื่องจากตนเองมีฐานะยากจน อีกทั้งเงินที่นำมาทำคลอดก็ต้องไปยืมมาจ่ายก่อน เพื่อรอเบิกประกันสังคมไปใช้หนี้ จึงไม่มีเงินที่จะนำศพลูกมาประกอบพิธีทางศาสนา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานว่า ขณะนี้รพ.ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างประชุมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อชี้แจงต่อสังคม แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย