4 หน่วยงานร่วมสร้างเครือข่าย พัฒนา ผลิต กัญชา สายพันธุ์ไทยครบวงจร

กรุงเทพฯ8มิ.ย.-กรมการแพทย์ องค์การเภสัชกรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิจัย พัฒนา และผลิตสายพันธุ์กัญชาและกัญชง เน้นสายพันธุ์ไทยให้มีศักยภาพตามมาตรฐานเกรดทางการแพทย์ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม  พร้อมด้วย นายพาวิน มโนชัย รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ นายสุรพล ใจวงศ์ษา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาและกัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์ 


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขออนุญาตย้ำเตือนอีกครั้งว่าการใช้สกัดกัญชาทางการแพทย์ไม่ใช่เป็นทางเลือกอันดับแรกในการรักษาโรค แต่จะใช้เมื่อรักษาด้วยยาตามมาตรฐานการรักษาแล้วไม่ได้ผล  โดยกลุ่มผู้ป่วยที่สามารถจะใช้สารสกัดกัญชาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ได้ประโยชน์ มี 4 โรค คือ ลมชักในเด็ก ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ปวดทนไม่ได้ และผลกระทบจากคีโม แต่ทั้งหมดไม่ใช่ทางเลือกแรก  กลุ่มที่ 2.กลุ่มโรคที่น่าจะได้ประโยชน์ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน  และ กลุ่มที่ 3. กลุ่มโรคที่ยังต้องศึกษาค้นคว้าวิจัย 

แต่ที่ผ่านมายังพบว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่ากัญชารักษาได้ทุกโรค รวมถึงนำไปใช้ผิดประเภท เช่น นอนไม่หลับ ปวดนิดหน่อย ก็ใช้ ซึ่งจริงๆ แล้วยานอนหลับ ยาแก้ปวดที่ราคาถูกกว่าก็มี  จึงขอเตือนว่า อย่าใช้มั่ว ถ้าจะไม่มีข้อบ่งชี้จริงๆ และถ้ามีข้อบ่งชี้ก็ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไร เพื่อใช้สารสกัดที่ได้มาตรฐาน 

ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้คาดการณ์ว่าไทยจะมีความต้องการสารสกัดกัญชาทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น  สิ่งที่เป็นห่วงมากในขณะนี้ คือกลัวว่าจะมีสารสกัดกัญชาที่ได้มาตรฐานไม่เพียงพอกับความต้องการ  ที่คนส่วนใหญ่ซื้อหากันมาใช้ คือ น้ำมันกัญชาใต้ดิน  ทางกรมฯมั่นใจว่า เกือบทั้งหมดไม่ได้มาตรฐาน เป็นเหตุให้ช่วงที่ผ่านมาพบผู้ป่วยจากการใช้กัญชาเข้าโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง


หลังจากที่องค์การเภสัชกรรมเริ่มนำร่องปลูกไปแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในการพัฒนา และผลิตกัญชาแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูก โดยมีองค์การเภสัชกรรมรับซื้อสารตั้งต้น เมื่อได้ผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชา กรมการแพทย์จะได้ใช้อย่างสบายใจ  ขณะนี้ทั้ง 2 สถาบันยังไม่สามารถเริ่มปลูกได้ เพราะยังติดขั้นตอนขอใบอนุญาตอย่างถูกต้อง โดยกรมการแพทย์  จะเป็นผู้รับผิดชอบในกระบวนการขออนุญาตแบบครบวงจร ทั้งการปลูก ผลิต และใช้ ต่อทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และคณะกรรมการยาเสพติด คาดว่าจะยื่นขอได้ภายใน เดือนนี้  เมื่อจะมีการประชุมพิจารณาในเดือนกรกฎาคม หากอนุมัติ คิดว่าปลายเดือนกรกฎาคม ทั้ง 2 สถาบันจะเริ่มปลูกได้ โดยการปลูกจะเน้นสายพันธุ์ไทย เพราะมีสารสำคัญครบตามที่แพทย์ต้องการ

ด้าน นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ร่วมมือในครั้งนี้องค์การเภสัชกรรม  (อภ.)จะร่างเงื่อนไขหลักเกณฑ์รับซื้อช่อดอกกัญชาแห้งทางการแพทย์ เพื่อรับซื้อวัตถุดิบจากทาง ม.แม่โจ้ และมทร.ล้านนา ซึ่งคุณสมบัติผู้ขายจะถูกต้องตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ผ่านมาตรฐาน อย. มีใบอนุญาตถูกต้อง สายพันธุ์ที่ปลูกต้องเป็นไปตามสูตรตำรับที่ต้องการ ซึ่งจะมีการผลิตสารสกัดกัญชา 3 สูตร คือ สูตรทีเอซีสูง สูตรซีบีดีสูง และสูตรอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง มาตรฐานการปลูกต้องไม่น้อยกว่ามาตรฐานการทางเกษตรที่ดี (GAP) มีการตรวจประเมินระหว่างปลูก เพื่อให้มั่นใจว่าช่อดอกที่เอามาเป็นไปตามมาตรฐานจริงๆ มีการควบคุมคุณภาพ  ต้องไม่มีสารตกค้าง มีสารสำคัญตามต้องการเพื่อทำยา โดยราคารับซื้อเป็นตามกลไกตลาด อย่างต่างประเทศจะพบว่า ราคากัญชาแห้งที่ซีลมาอย่างดีเฉลี่ยกิโลกรัมละ 7 หมื่น – 1 แสนบาท ทั้งนี้ การทำสัญญาซื้อขายอาจทำเป็นล็อตๆ ซึ่งล็อตหนึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือนในการปลูก หรืออาจทำเป็นรายปีก็ได้ ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ยังนำไปใช้กับผู้ขายรายอื่นได้ด้วยที่จะมีในอนาคต เช่น วิสหากิจชุมชนต่างๆ เป็นต้น ซึ่ง วันที่ 13 มิถุนายนนี้ จะลงนามร่วมกับ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร ในการปลูกกัญชาอีกด้วย

สำหรับพื้นที่ขององค์การเภสัชกรรม ที่นำร่องปลูกนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ปลูกได้ประมาณ 140 ต้น และจะสามารถให้ผลผลิตได้ออกมาใช้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ที่ 2,500 ขวด ในปีหน้าเตรียมที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูกในร่วมเพิ่มเป็น 1,000 ตารางเมตร ปลูกต้นกัญชาได้มากกว่าเดิมอย่างน้อย 8 เท่า

ขณะที่ นพ.อิสระ เจียวิริยบุญญา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี กล่าวว่า เบื้องต้นจากการคำนวณพื้นที่ปลูกในโรงเรือน อาจจะต้องปลูกได้สูงสุดถึง 3,000 ต้น ส่วนจะแบ่งให้แต่ละแห่งปลูกเท่าไรนั้น จะมาตกลงกันอีกครั้ง และในการยื่นขอ อย.ก็ต้องดูว่า จะยอมให้ปลูกได้เท่าไร  หากปลูกได้ 3,000 ต้น จะสามารถนำมาสกัดเป็นสารตั้งต้นได้จำนวน 300 ลิตร จากนั้นจึงไปทำให้เจือจางเป็นผลิตภัณฑ์ในอัตราส่วน 1:3 จะได้น้ำมันกัญชาประมาณ 900 ลิตร หรือ 9 แสนมิลลิลิตร ถ้าแบ่งขวดละ 10 ซีซี ก็จะได้ถึง 9 หมื่นขวด ซึ่งก็จะทำทั้ง 3 ตำรับ คือ สูตรซีบีดีสูง ทีเอชซีสูง และสูตรหนึ่งต่อหนึ่ง โดยทุกขวดจะต้องได้สารสำคัญเท่ากัน คือ 1 มิลลิลิตร จะต้องมีสารสำคัญ 20 มิลลิกรัม ส่วนจะมีซีบีดี ทีเอชซีเท่าไรก็แล้วแต่สูตร 

โดยเมื่อคนไข้นำน้ำมันกัญชามาใช้ ใน 1 หยดจะต้องมีสารสำคัญ 1 มิลลิกรัม ทำให้คนไข้ไม่เกิดปัญหาเมื่อใช้มากเกินไป  เชื่อว่า ทั้งสองมหาวิทยาลัยจะพัฒนาสายพันธุ์ไทยให้มีซีบีดีสูงได้ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 6-7 รอบการปลูก ซึ่งแต่ละรอบใช้เวลา 3-4 เดือน

สำหรับพื้นที่เพาะปลูกของ 2 สถาบัน นายพาวิน กล่าวว่า  เบื้องต้น ม.แม่โจ้จะเริ่มปลูกในโรงเรือน หรือกรีนเฮาส์ เนื้อที่ 3,000 ตารางเมตร สามารถปลูกได้ 2,600 ต้น  ในอนาคตหากสำเร็จก็จะขยายออกไปปลูกกลางแจ้ง โดยม.แม่โจ้มีฟาร์มกลางป่า ซึ่งได้รับอนุญาตรวม 907 ไร่ สามารถปลูกได้มากถึง 13,000 ต้น และยังมีพื้นที่ที่สามารถเพาะกล้ากัญชาได้อีกประมาณ 100,000 ต้น ตอนนี้โรงเรือน พื้นที่ และระบบความปลอดภัยต่างๆพร้อมหมดแล้ว ขาดอย่างเดียวคือรั้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 เดือน และ ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ อย.จะเดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ว่า ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง และเมื่อได้รับใบอนุญาตก็สามารถลงมือปลูกต้นแรกได้ทันที

ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เตรียมพื้นที่ไว้ 2 แห่ง คือที่เชียงใหม่ และสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร ที่ จ.ลำปาง จำนวน 2,200 ตารางเมตร สำหรับปลูกเพื่อเก็บดอกกัญชา แห่งละ 1,800 ต้น และสำหรับวิจัยสายพันธุ์ อีกแห่งละ 200 ต้น ในเบื้องต้นจะปลูกสายพันธุ์ไทย ภูพานด้ายแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย