รวบคาสถานีรถไฟ! 2 คนร้ายขนเคตามีนกว่า 300 กก.หนีด่านตรวจ

ลำปาง 7 มิ.ย. – ตำรวจแพร่-ลำปางไล่ล่ารถยนต์ต้องสงสัยขับหลบหนีด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ เข้ามาในพื้นที่ จ.ลำปาง สุดท้ายพบรถถูกจอดทิ้งในปั๊มน้ำมัน ภายในรถมียาเคตามีนกว่า 300 กก. ล่าสุดจับคนขับรถได้แล้ว ขณะซื้อตั๋วรถไฟเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ


พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ร่วมกันไล่ล่ารถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถเก๋งเชฟโรเลต แคปติวา สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กพ 6614 กรุงเทพมหานคร หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ไล่ติดตามรถคันดังกล่าว ซึ่งมีชายในรถ 2 คน ขับหลบหนีมาจากด่านตรวจยาเสพติด สภ.ห้วยไร่ เข้ามายัง จ.ลำปาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับ พร้อมกับขับรถไล่ติดตามมาจาก อ.เด่นชัย จ.แพร่ มุ่งหน้ามาทาง จ.ลำปาง


ด้านตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง หลังจากรับรายงานได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตาม จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ในบริเวณปั๊มน้ำมัน PT ก่อนถึงสามแยกบ้านฟ่อน อ.เมืองลำปาง ซึ่งอยู่บริเวณริมถนนสายลำปาง-ตาก ขาล่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส. ร่วมกับตำรวจ สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง ได้เข้าตรวจค้นรถ พบยาเคตามีน ชนิดผงสีขาว 14 กระสอบใหญ่ กระสอบละ 26 ถุง (ชาจีน) ถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมตรวจนับได้ จำนวน 364 ถุง เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมด นำไปเก็บไว้ที่ สภ.เขลางค์นคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ เพื่อเก็บหลักฐานต่างๆ อีกครั้ง 


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวชาย 2 คน ที่ขับรถขนเคตามีนคันดังกล่าวได้ บริเวณสถานีรถไฟลำปาง ขณะที่ชายทั้ง 2 คน คือ นายอ๊อฟ หรือนายธัชชัย เพ็งลา อายุ 33 ปี เป็นชาวจังหวัดนครปฐม ส่วนอีกคนหนึ่งทราบเพียงชื่อเล่น คือ นายเนย มาซื้อตั๋วรถไฟเพื่อจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยทั้งสองรับสารภาพว่า ร่วมกันขับรถขนยาเคตามีนหลบหนีมาจาก จ.แพร่ และนำรถมาจอดทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมัน PT ก่อนที่จะเดินเท้าหลบหนีเจ้าหน้าที่เข้ามาในตัวเมืองลำปาง และไปซื้อเสื้อตัวใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและนำเสื้อผ้าเก่าทิ้งถังขยะ พร้อมกุญแจรถยนต์คันดังกล่าว ก่อนจะมาซื้อตั๋วรถไฟ เพื่อเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายทั้ง 2 คน มาสอบสวน เพื่อขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง