กทม. 6 มิ.ย.-หลังที่ประชุมรัฐสภาวานนี้ ใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงในการอภิปรายและลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในที่สุดที่ประชุมมีมติเลือก “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยที่ 2 ด้วยคะแนน 500 เสียง ชนะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้ 244 เสียง
มาไล่เรียงดูเหตุการณ์เมื่อวานนี้ การประชุมรัฐสภา เริ่มเวลา 11.00 น. มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ซึ่งมีวาระพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีแคนดิเดต 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ แต่กว่าจะได้ลงมติ ก็มีการอภิปรายตอบโต้กันไปมาของ 2 ฝ่าย ถึงคุณสมบัติของแคนดิเดตทั้ง 2 คน ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวัน โดย ส.ส. ขั้วเพื่อไทยและอนาคตใหม่ เจาะประเด็นไปที่คุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม และการเรียกร้องให้มีการปิดสวิตช์ ส.ว. หวังไม่ให้โหวต พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ ส.ส.จากขั้วพลังประชารัฐ ต่างอภิปรายสนับสนุนความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้สงบ ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย รวมถึงนโยบายต่างๆ ที่ตอบโจทย์ประชาชนและพี่น้องเกษตรกร รวมถึงเปรียบเทียบไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐ
หลังใช้เวลาอภิปรายเกือบทั้งวัน แต่ท้ายที่สุดในเวลา 21.50 น. ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีได้ โดยใช้วิธีขานรายชื่อสมาชิกรัฐสภาเป็นรายบุคคล เรียงลำดับตามตัวอักษร โดยใช้วิธีการลงคะแนนแบบเปิดเผย และมีตัวแทนพรรคการเมือง 6 คน เป็นกรรมการตรวจสอบการออกเสียง ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง การลงมติก็เสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียง 500 เสียง ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้คะแนนเสียง 244 เสียง โดยมีผู้งดออกเสียง 3 เสียง จากองค์ประชุมรัฐสภาทั้งหมด 747 คน แบ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 497 คน และสมาชิกวุฒิสภา 250 คน
ในการประชุมลงมติเมื่อวานนี้ นักการเมืองหลายคนถูกจับตามองเป็นพิเศษในการโหวตนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าตัวได้โพสต์คลิปในเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นช่วงเวลาที่โหวตให้ นายธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุข้อความว่า “ผมเป็นคนรักษาคำพูดและจุดยืนทางการเมือง”
อีกประเด็นที่ถูกจับตา คือ 3 เสียงที่งดออกเสียง ซึ่งนอกจากนายชวน หลีกภัย ที่ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา อีกคน คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ที่ยอมรับโหวตสวนมติพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตากลางสภาหลังโหวตงดออกเสียง โดยมีเพื่อน ส.ส. ตบไหล่ปลอบใจ กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน มาย้อนดูประวัติของนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือ เสี่ยโต้ง ปัจจุบันอายุ 42 ปี 9 เดือน จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ปริญญาโท สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ (MIS) มหาวิทยาลัยโคโลราโด เดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก สาขาเกษตรเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายหลังเรียนจบปริญญาโท กลับมาสานต่อโครงการบ้านจัดสรรของครอบครัวในจังหวัดศรีสะเกษ และยังเคยทำธุรกิจอื่นอีก อาทิ โรงเรียนกวดวิชา ธุรกิจรถนำเข้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ธุรกิจเฟรนส์ไชส์ ร้านกาแฟ รวมทั้งเป็นนายทุนให้กับภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์
นายสิริพงศ์ ก้าวสู่การเมือง เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย เมื่อปี 2550 และเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ปี 2551 (บ้านเลขที่ 109) จากนั้นได้ย้ายสังกัดมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อปี 2561 ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และสามารถเอาชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• “พล.อ.ประยุทธ์” กับเส้นทางการเป็นนายกฯ สมัยที่ 2
• “อนุทิน” เผยไม่ติดใจ “สิริพงศ์” โหวตสวนมติพรรค
• นายกฯ ขอบคุณโหวตเลือกนายกฯ เรียบร้อย ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด