วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ชี้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้

กรุงเทพฯ 20 ส.ค.- วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ชี้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะ คำถามพ่วงให้ร่วมโหวตเลือกเท่านั้น แนะ หาก กรธ.ปรับแก้ร่าง รธน.ตามเจตนารมณ์ของ สนช. แล้วประชาชนไม่เห็นด้วย สามารถเข้าชื่อเสนอให้ศาล รธน.ตีความได้


นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีที่ สนช.เสนอเจตนารมณ์ของคำถามพ่วงประชามติต่อกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เพื่อปรับแก้บทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญว่า คำถามพ่วงที่ประชาชนเห็นชอบไปแล้ว จะไปแตะต้องเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และเมื่อถามว่า คำถามพ่วงตีความได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่า ขนบธรรมเนียมประเพณีในการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง น่าจะใช้รูปแบบไม่ต่างกัน คือ แต่เดิม เมื่อประชุมนัดแรกหลังจากได้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาแล้ว  ประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากเสนอชื่อ และพรรคฝ่ายค้านเสนอชื่อ แล้วก็โหวตเลือกกัน ซึ่งก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปกติ แต่เมื่อคำถามพ่วงผ่านประชามติจากประชาชน ซึ่งคำถามพ่วงเขียนไว้ชัดเจนว่าให้ ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกันเลือก ดังนั้น ต้องเปิดประชุมรัฐสภา แล้วให้พรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลเสนอตัวตามบัญชีรายชื่อ แล้วก็โหวตร่วมกัน ใครได้เสียงมาก ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็เป็นหลักปฏิบัติทั่วไป แต่ก็เกิดคำถามว่า หากไม่ได้ตัวนายกรัฐมนตรี และรายชื่อก็หมดจากบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอไว้แล้ว จะทำอย่างไร ซึ่งตนก็ยังเห็นว่า เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะเสนอชื่อขึ้นมาอีก เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาและร่วมกันโหวต ขณะที่ ส.ว.ก็ยังเสนอชื่อไม่ได้ เพราะคำถามพ่วงกำหนดไว้ให้ร่วมกันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

“ในรูปแบบของคำถามพ่วงประชามติ ก็ไม่ได้มีคำว่า ให้มีส่วนร่วมในการเสนอชื่อ มีแต่คำว่า ให้ร่วมเลือกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการถกเถียงกันในวงสังคมว่า ส.ว.จะIMG_3084เข้าไปมีส่วนกับการเลือกนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร แต่เมื่อท้ายที่สุด ประชาชนให้ ส.ว.ไปร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ก็ต้องไปร่วมเลือก แต่ไม่ได้ให้ไปเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี” นายวัลลภ กล่าว


นายวัลลภ ยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สนช.บางคนได้ลงพื้นที่ไปชี้แจงคำถามพ่วงกับประชาชนว่า ส.ว. สามารถเสนอชื่อได้นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะ สนช.ที่ลงพื้นที่มีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ สมาชิก สนช.จะใช้การเปิดซีดีเนื้อหาการชี้แจงคำถามพ่วงประชามติของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นหลักในการชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งเท่าที่ตนฟังจากซีดีนั้น ไม่ได้กล่าวถึงการให้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้หากสุดท้ายแล้ว กรธ.ปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญตามเจตนารมณ์ของ สนช. ก็มองว่า จะเกิดผล 2 กรณี คือ เกิดผลความขัดแย้งในทางกฎหมาย ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งอาจจะเข้าชื่อเสนอให้ศาล รธน.ตีความว่า การปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขัดหรือไม่กับคำถามพ่วงประชามติ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างไร ก็จบไปตามนั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด และกรณีที่ 2 คือ หากประชาชนไม่เห็นด้วย ก็อาจเกิดการประท้วงออกมา แต่เชื่อว่า ในสถานการณ์แบบนี้ น่าจะประท้วงได้ยาก ดังนั้น หากประชาชนไม่เห็นด้วย และรู้สึกว่าการแก้ร่างรัฐธรรมนูญขัดแย้งกับคำถามพ่วง ก็สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่า การปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญตามเจตนารมณ์ของ สนช.นั้น คงไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญก็จะเป็นผู้ตีความ เมื่อศาลตีความอย่างไร ก็ยุติตรงนั้น ซึ่งเมื่อ กรธ.ปรับแก้เสร็จแล้ว และประชาชนไม่เห็นด้วย ก็สามารถเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนการที่ กรธ.จะต้องยื่นร่างรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เมื่อถามว่า การให้ ส.ว.มีอำนาจเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ถือว่า มีอำนาจมากเกินไปหรือไม่ นายวัลลภ กล่าวว่า ตามเจตนารมณ์ที่ตนเข้าใจ คือ ส.ว.ชุดแรกต้องขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ให้ได้ โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรก แต่ไม่ได้ไปถึงขั้นให้ ส.ว.ไปร่วมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่า สนช.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเจตนารมณ์นี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]