จับ อส. ซ้อมทหารพรานดับทิ้งคลองชลประทาน

ปัตตานี 30 พ.ค.-จับอส. ซ้อมทหารพรานเสียชีวิต ทิ้งศพในคลองชลประทาน หลังสงสัยว่าผู้ตายเป็นสายให้เจ้าหน้าที่เรื่องยาเสพติด ด้านผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเร่งไล่ล่าคนร้ายที่ยังหลบหนี


กรณีพบศพ อส.ทพ.กูฮารี อับดุลบุตร อายุ 26 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4203 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูกฆ่าทิ้งคลองชลประทานบ้านมูหลง ม.2 ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยเฉพาะศพมีร่องรอยถูกซ้อมและขึ้นอืดเนื่องจากถูกนำมาทิ้ง 2 วัน เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 29 พค.ที่ผ่านมา จากนั้นตำรวจได้สอบสวน น.ส.สุพัตรา สุวรรณมณี ซึ่งเป็นแฟนสาวผู้ตาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายถูกกลุ่ม อส.อำเภอยะหริ่ง 3 นาน จับตัวมาซ้อมทรมานในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง เพราะสงสัยว่าผู้ตายเป็นสายให้เจ้าหน้าที่เรื่องยาเสพติด จนทำให้ถูกซ้อมจนกระทั่งเสียชีวิต จากนั้น พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รอง ผบก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผกก.สภ.ยะหริ่ง พ.ต.ท.ปภาณ จันทร์กลับ รอง ผกก.ป.สภ.ยะหริ่ง นำกำลังไปควบคุมตัว นายอายือมัน เบ็ญนา อายุ 40 ปี และนายนพดล วาสนิล อายุ 32 ปี ทั้งสองเป็น อส.อำเภอยะหริ่ง มสอบสวน จนรับสารภาพว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ อส.ทพ.กูฮารี อับดุลบุตร ต่อมา นายวิรัตน์ จันทร์ปานใจ อายุ 24 ปี อส.อำเภอยะหริ่ง ได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ยะหริ่ง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวสอบสวน


ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 30 พ.ค. เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รองผบก. พ.ต.ท.ปภาณ จันทร์กลับ รอง ผกก.ป.พร้อมกำลัง ได้นำตัว นายอายือมัน เบ็ญนา 1 ในผู้ต้องหาไปทำแผน 3 จุด จุดแรกที่บ้านเช่า ต.ยามู อ.ยะหริ่ง บ้านของนายอายือมัน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและแฟนสาวได้มาขอพักอาศัยชั่วคราวตั้งแต่ต้นเดือน พค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งคืนวันที่ 27 พค.ที่ผ่านมา นายอายือมัน ได้พบเอกสารคล้ายแผนที่ระบุเกี่ยวกับสถานที่พักยาเสพติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย ทำให้นายอายือมัน สงสัยว่าผู้ตายอาจจะเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่ และกังวลใจว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจค้น นายอายือมัน จึงล่อลวงผู้ตายและแฟนสาวไปที่บ้าน นายวิรัตน์

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายอายือมัน ไปทำแผนต่อ ณ จุดที่สอง ซึ่งเป็นบ้านของนายวิรัตน์ เลขที่ 105 โดยบ้านหลังนี้เป็นจุดที่ผู้ตายถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิตต่อหน้าแฟนสาว ซึ่งในบ้านนายอายือมัน ระบุว่า มีนายนภดล วาสนิล นายวิรัตน์ เจ้าของบ้าน นายซานูวา แวฮามะ อายุ 32 ปี และ นายแบไม่ทราบนามสกุล และหลังจากที่ผู้ตายเสียชีวิต นายอายือมัน จึงได้โทรศัพท์เรียกนายนิเซ็ง เบญนา อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นญาติขับรถยนต์มาขนศพผู้ตายไปทิ้งที่คลองชลประทานจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายอายือมัน ไปทำการแผน ณ จุดที่ 3 คลองชลประทานซึ่งเป็นจุดที่ทิ้งศพ


พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 4 คน คือ นายอายือมัน เบญนา นายนภดล วาสนิล นายวิรัตน์ จันทร์ปานใจ ทั้งสามคนเป็น อส.อำเภอยะหริ่ง และนายนิเซ็ง เบญนา เจ้าของรถ ส่วนอีก 2 คน คือ นายซานูวา แวฮามะ และนายแบ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งถูกซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายผู้ตายเสียชีวิตยังคงหลบหนี ตนได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนทำการติดตามจับกุมให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจและเป็นคดีอุจฉกรรจ์ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนสาเหตุทราบว่า ผู้ตายได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปสืบเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ปรากฏว่าถูกกลุ่มคนร้ายจับได้ว่าในกระเป๋ากางเกงของผู้ตายมีเอกสารที่ระบุเกี่ยวกับกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่ จึงทำให้คนร้ายกลุ่มนี้ออกอุบายพาตัวมาที่บ้านอีกหลังและมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุหลายคนทำให้คนเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้ง ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย ออกไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย