สำนักงาน กกต. 30 พ.ค.- “เรืองไกร” ร้อง กกต. 10 ส.ส.ประชาธิปัตย์ถือหุ้นสื่อฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (3) เผยยังมีส.ส.พรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และ ส.ว. ที่ถือหุ้นสื่ออีกหลายราย
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 พ.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 10 คน กรณีถือหุ้นสื่อ อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติและอาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทำนองเดียวกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดย ส.ส. ทั้ง 10 คน ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช น.ส.จิตภัสร์ ตั้น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา เขต 1 นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยองเขต 2 นายอัครเดชวงษ์ พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 นายประมวล พงศ์ถาวรเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์เขต 3 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 นายภาณุศรี บุศยกาญจน์ ส.ส.สุราษฎร์ธานีเขต 1 น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 และนายสมชาติ ประดิษฐพร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 4 ซึ่งทั้งหมดมีชื่อถือหุ้นในบริษัทที่วัตถุประสงค์ประกอบกิจการของบริษัท ระบุประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน จึงอาจเข้าข่ายเป็น ส.ส.ที่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา
นายเรืองไกร ระบุว่า กกต.ต้องปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน วันนี้เราเห็นตัวอย่างของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้นายธนาธรหยุดการปฏิบัติหน้าที่ กรณีของนายธนาธร ศาลระบุว่ามีเหตุอันควรสงสัย ต่างจากกรณีที่ตนยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบ ส.ส. ที่ถือหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อ ซึ่งมีหลักฐานที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแสดงชัดเจน และคิดว่ามี ส.ส.อีกไม่น้อยกว่า 50 คนที่มีกรณีถือหุ้นสื่อ ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งตนจะรวบรวมร้องต่อไป แต่ทำไมกรณีก่อนหน้านี้ที่ยื่นคำร้องไว้ กกต.ยังไม่วินิจฉัย อย่าไปกังวลว่าส่งศาลแล้ว หากคนเหล่านี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเกิดปัญหาในเรื่องการโหวตนายกฯ ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
นายเรืองไกร ยังกล่าวว่าหลังจาก กกต.พิจารณากรณีของนายธนาธรแล้ว กรณีการถือหุ้นอื่นๆ กกต.ก็เฉยหมด แล้วคิวสุดท้าย ส.ว. 250 คน โดยเฉพาะคนที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้แล้ว ตนก็เห็นแล้วว่ามีใครบ้าง ก็จะนำรายชื่อมายื่นร้องเรียนกับ กกต.ให้หมด.-สำนักข่าวไทย