“อรรถพล”ออกหนังสือค้านการแต่งตั้งเลขาฯสกสค.

กทม. 29 พ.ค.-ผู้ตรวจศธ.ในฐานะเลขาธิการสกสค.ออกหนังสือค้านคำสั่งแต่งตั้งเลขาสกสค.และผอ.องค์การค้า หลังพบการแต่งตั้งไม่ชอบธรรม ไม่เป็นไปตามธรรรมาภิบาล พร้อมเตรียมฟ้องศาลปกครอง


นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีที่ คณะกรรมการสกสค.ที่มีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ในฐานะประธานคณะกรรมการสกสค.ได้คัดเลือกเลขาธิการรสกสค. โดยมีผู้ได้รับเสนอชื่อ 2 ราย คือ นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.และนายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้ตรวจราชการศธ. โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายณรงค์ แผ้วพลสง ทำหน้าที่เลขาธิการสกสค. ส่วนตำแหน่งผอ.องค์การค้าของสกสค.ได้เลือกนายอดุลย์ บุสสา อดีตรองผอ.องค์การค้าสกสค.นั่งตำแหน่งผอ. และในวันเดียวกันนายการุณ ก็ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการสกสค.ที่ 2/2562 และ 3/2562 แต่งตั้งทั้ง 2 ตำแหน่งทันทีนั้นว่า ตนได้ออกหนังสือขอให้เพิกถอนคำสั่งทั้ง 2 คำสั่งดังกล่าว และเตรียมจะฟ้องศาลปกครองและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยขณะนี้ถือว่าตนยังปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค.อยู่ เพราะเป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยรมว.ศธ. หากจะให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องให้รมว.ศธ.มีคำสั่งอย่างเป็นทางการ 

โดยใจความสำคัญของหนังสือระบุว่า  ตามที่คณะกรรมการสกสค. ได้นัดประชุมครั้ง ที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 เพื่อพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตําแหน่งเลขาธิการสกสค. และตําแหน่งผอ.องค์การค้าของสกสค. ในการประชุมได้มีมติคัดเลือกและออกคำสั่งคณะกรรมการสกสค.ทั้ง 2 คำสั่งนั้น เห็นว่า มีกระบวนการดําเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมายและขาดความโปร่งใส ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เห็นควรให้เพิกถอนมติที่ประชุมและคําสั่งที่ออกตามมติ โดยมีเหตุผลดังนี้


1. นายการุณ  สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีบันทึกเสนอถึงรองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้พิจารณากำหนดนัดวันประชุมซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการท้ายบันทึกเมื่อวันที่  24 พฤษภาคม 2562 ว่า “มอบปลัดฯ” ซึ่งต่อมานายการุณ  สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ใช้บันทึกฉบับดังกล่าวเป็นข้ออ้างว่ารองนายกรัฐมนตรีมอบอำนาจให้ตนดำเนินการจนเสร็จการ และได้มีการออกหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการ สกสค. จากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งๆที่เป็นหน้าที่โดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งมีฐานะเป็นเลขานุการของที่ประชุมโดยตำแหน่ง

2. ในช่วงก่อนวันที่ 28 พฤษภาคม  2562  ทราบว่าปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้โทรศัพท์สั่งการไปยังกรรมการบางคนให้ลงคะแนนเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. รายนายณรงค์  แผ้วพลสง (มีไฟล์เสียงพร้อมแสดงในภายหลัง)  

3. วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการ สกสค. นายการุณ  สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงชื่อเข้าประชุมแทนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  และนายประเสริฐ  บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงชื่อเข้าประชุมแทน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ และแจ้งต่อที่ประชุมว่าได้รับมอบหมายจาก นายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ตนมาประชุมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และกลับมอบหมายให้  นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เข้าประชุมแทนตนในฐานะปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการดำเนินการขัดกับมาตรา 66 ประกอบมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ซึ่งกำหนดให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกรณีประธานโดยตำแหน่งไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติ  หน้าที่ได้ อีกทั้งยังขัดกับคำสั่ง คสช.  ที่ 7/2558 ลงวันที่ 16 เมษายน 2558 ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมได้มีการทักท้วงว่าเป็นการดำเนินการไม่ชอบ แต่นายการุณ  สกุลประดิษฐ์ ไม่ยอมรับฟังและได้ดำเนินการประชุมต่อไปจนเสร็จสิ้น


4. การพิจารณาสรรหาครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากกระบวนการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ. เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.  ซึ่งกำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหาขึ้นมาชุดหนึ่ง ทำหน้าที่สรรหาและแม้นว่าที่ประชุมในครั้งนี้พยายามทักท้วงว่าให้นำผลการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาให้ที่ประชุมพิจารณาเพราะมีกระบวนการขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม แต่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมไม่ยอมรับฟัง กลับให้คณะกรรมการลงคะแนนลับโดยไม่มีเหตุผลใดๆ สนับสนุนการใช้ดุลยพินิจตัดสินใจของคณะกรรมการอันเป็นการขัดต่อการพิจารณาทางปกครองในกรณีที่สรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ

5. การลงมติโดยวิธีลับตามข้อ 4 นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนในฐานะรัฐมนตรี และให้นายประเสริฐ  บุญเรือง ลงคะแนนในฐานะปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  ที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่ง เมื่อนับคะแนนปรากฏว่าคณะกรรมการลงคะแนนให้นายอรรถพล ตรึกตรอง 4 คะแนน และลงคะแนนให้ นายณรงค์ แผ้วพลสง   4 คะแนนเท่ากัน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ จึงใช้สิทธิ์ออกเสียงเพิ่มอีก 1 เสียง ให้แก่นายณรงค์  แผ้วพลสง  โดยไม่มีเหตุผลประกอบ ทำให้เห็นว่าเฉพาะการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนถึง 3 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ในฐานะรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ยินยอมให้นายประเสริฐ  บุญเรือง ใช้ตำแหน่งตนเอง และครั้งที่ 3 ใช้สิทธิ์ออกเสียงโดยอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากรองนายกรัฐมนตรีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นประธานออกเสียงเพิ่มอีก 1 เสียง

6. การดำเนินการประชุมและออกคำสั่งครั้งนี้เป็นไปด้วยความลุกลี้ลุกลนและเร่งรัด    จนเห็นได้ชัดถึงความผิดปกติ กล่าวคือ เร่งรีบออกคำสั่งแต่งตั้งผู้ได้รับคัดเลือกโดยที่ยังไม่ได้จัดทำรายงานการประชุมของคณะกรรมการ ประกาศผลการสรรหา การรายงานตัว การตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการแต่งตั้งและสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดทำคำสั่งแต่งตั้งด้วยตนเองแทนที่จะให้สำนักทรัพยากรบุคคล สกสค. ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นผู้ดำเนินการ            

7. คำสั่งแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. ที่ 2/2562 ขัดกับข้อ 5 ของประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำหนดให้ผู้ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.  ซึ่งเป็นข้าราชการหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องลาออกจากราชการก่อนออกคำสั่งแต่งตั้ง แต่ข้อเท็จจริง นายณรงค์  แผ้วพลสง ผู้ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งดังกล่าว ยังคงดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ยังมิได้ลาออกแต่ประการใด

8. นายอรรถพล  ตรึกตรอง ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1345/2561 ลงวันที่   9 ตุลาคม 2561 จนถึงปัจจุบัน แต่คำสั่งที่ 2/2562 ที่แต่งตั้งนายณรงค์  แผ้วพลสง ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. มิได้ยกเลิกคำสั่งให้ นายอรรถพล  ตรึกตรอง พ้นจากหน้าที่ก่อให้เกิดปัญหาและสร้างความสับสนในทางปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการเป็นไปตามกฎหมาย   และคำสั่ง คสช ที่ 7/2558 ลงวันที่ 16 เมษายน 2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 17/2560 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 จึงขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และคำสั่งคณะกรรมการ สกสค. ที่ 2/2562 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2562.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]