กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- คณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจร ย้ำ การถ่ายภาพใบขับขี่ ไม่สามารถใช้แทนใบขับขี่จริงได้ ส่วนสำเนาถ่ายเอกสาร รอกำหนดรูปแบบให้ชัดเจน ก่อนกฎหมายจราจรทางบกฉบับใหม่บังคับใช้วันที่ 19 กันยายนนี้
พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการแก้ไขพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 12 พ.ศ.2562 ในประเด็นการแสดงใบอนุญาตขับขี่ ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยกฎหมายฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือวันที่ 19 กันยายน 2562 ซึ่งจะมีผลเรื่อง ยกเลิกการเรียกเก็บใบขับขี่จากตำรวจ แต่ผู้ขับขี่ยังจำเป็นต้องแสดงใบขับขี่ 3 รูปแบบ เพื่อแสดงข้อมูลในการออกใบสั่ง ได้แก่ ใบขับขี่ปกติ / การแสดงข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ของกรมการขนส่งทางบก / และสำเนาภาพถ่าย ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งในส่วนของสำเนาภาพถ่าย ตำรวจจะมีการกำหนดรูปแบบร่วมกับกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง โดยย้ำว่า ใบขับขี่ที่ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพ ไม่สามารถใช้ได้แน่นอน ทั้งนี้ ก่อนวันที่ 19 กันยายนนี้ กฎหมายฉบับเก่ายังมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ผู้ขับขี่ยังต้องพกพาใบขับขี่ฉบับจริง และตำรวจยังมีอำนาจเรียกเก็บใบขับขี่อยู่ หากพบมีการกระทำความผิดกฎหมายจราจร
พลตำรวจตรีเอกรักษ์ เชื่อด้วยว่า หลังการบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ จากนี้ ประชาชนจะมีภาระน้อยลง แต่ขณะเดียวกัน ต้องขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันผ่านแอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย