นพ.เจตน์ ย้ำเจตนารมณ์คำถามพ่วงให้ส.ว.เลือกนายกฯตั้งแต่ขั้นตอนเสนอชื่อ

_17514627สำนักข่าวไทย 21 ส.ค..- “นพ.เจตน์” เผยต้นสัปดาห์ต้องหารือกันภายในหาข้อยุติเรื่องให้ส.ว.มีส่วนร่วมเลือกนายกฯ ว่าจะมีสิทธิเสนอชื่อหรือไม่ กรณีที่ไม่สามารถเลือกตามบัญชีพรรคการเมืองได้ ยืนยันไม่อยากออกเป็นมติกดดันกรธ. แต่ตามเจตนารมณ์ก่อนตั้งคำถามคือการย้ายเวทีจากสภาผู้แทนราษฎรมาเป็นวุฒิสภา คือต้องเริ่มตั้งแต่กระบวนการเสนอชื่อ


นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช. กล่าวถึงการพิจารณาคำถามพ่วงประชามติ ที่มีปัญหาเรื่องการให้ส.ว.มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีตามรายชื่อพรรคการเมืองได้ มีขอบข่ายถึงขั้นเสนอชื่อได้ด้วยหรือไม่ ว่า เมื่อยังมีความเห็นที่ต่างกัน กรรมาธิการฯ ซึ่งมีตัวแทนของกรรมาธิการทุกคณะในสนช.อยู่แล้วจึงจะนัดหารือกันอีกครั้งภายในวันอังคารนี้ เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจนว่าควรตีความอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้เห็นว่าควรตีความอย่างกว้าง คือเมื่อให้ส.ว.มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ควรมีส่วนตั้งแต่กระบวนการแรกคือการเสนอชื่อด้วย ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการพูดคุยกันตั้งแต่ตอนตั้งคำถามพ่วงประชามติแล้ว ว่าเจตนารมณ์เป็นแบบนี้ แต่การจะเขียนเป็นคำถามหากระบุลงไปละเอียดเช่นนี้ จะกลายเป็นมากกว่า 1 ประเด็น และเกรงว่าประชาชนจะสับสน

นพ.เจตน์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการฯ จะหารือกันและหากจะต้องขอมติที่ประชุมสนช. จะต้องพูดคุยกันในคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่าสมควรบรรจุเป็นญัตติเพื่อขอมติหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นทางกรรมาธิการฯเห็นว่าไม่ควรเป็นมติ เพราะหากเป็นมติของสนช.จะเป็นการกดดันกรธ. ซึ่งยังมีความเห็นต่างอยู่  ซึ่งทางสนช.อยากให้ความเห็นเป็นไปในแนวทางเดียวกันก่อนที่จะเขียนในบทเฉพาะกาล


“ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ถ้าเป็นความขัดแย้ง เราต้องยืนยัน ดึงดัน แต่นี่เราพยายามที่จะพูดคุยเพื่อหาข้อยุติให้ได้ในแนวทางเดียวกัน แต่เราไม่อยากออกเป็นมติของที่ประชุมสนช.เพราะเกรงจะไปกดดันกรธ. แต่ตอนนั้นมีการพูดกันตอนเขียนคำถามพ่วงฯว่าอยากให้เขียนให้ชัดไปเลย ก็เกรงว่าจะเป็นการถามมากกว่า 1 ประเด็น เลยต้องเรียนให้สั้นกระชับ แต่มันคือการย้ายเวทีสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกนายกฯมาที่รัฐสภา เราก็ต้องย้ายมาทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มเสนอชื่อ”นพ.เจตน์ กล่าว

นพ.เจตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีเวลาในการหารือกัน ซึ่งอาจจะต้องพบกันกับกรธ.มากกว่า 1-2 ครั้ง แต่จะต้องหาข้อยุติให้ได้ก่อนวันที่ 5 ก.ย. เพื่อให้กรธ.มีเวลาในการเขียนก่อนที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญตามกำหนดเวลา คือ 7 ก.ย. .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์