“สว.เจตน์” มองยื่นศาลตีความทำได้

รัฐสภา 29 มี.ค.- “สว.เจตน์” ชี้ยื่นศาลตีความทำได้ แต่จะรับหรือไม่ เหตุยังไม่รู้ประเด็นแก้ รธน. เหมือนตีเช็คเปล่า ไม่รู้เจตนา


นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายญัตติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เรื่องให้รัฐสภา มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ซึ่งมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยื่น ว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใครหากเรื่องยังไม่เกิดขึ้น การจะเสนอให้แก้ไขมาตราใดมาตราหนึ่งโดยมี ส.ส.ร.มายกร่างรัญธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ของใคร เพราะมีมาตลอดและถกเถียงกันตลอดอยู่แล้ว และรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด กฎเกณฑ์ในการแก้ไขอาจแตกต่างจากกฎหมายธรรมดา และรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งแก้ไม่ได้ตามมาตรา 256 และแก้ได้ยากโดยการพ่วงการทำประชามติเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการตีความว่าจะต้องทำประชามติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 3

นพ.เจตน์กล่าวว่า นอกจากแก้ยากแล้ว หากแก้ตามปกติก็ต้องอาศัยเสียง สว. 2 ใน 3 จึงมีฝ่ายที่เห็นว่าทำไมสภาจึงไม่แก้เป็นประเด็นเพื่อให้สภารู้ว่าจะยกเลิกองค์กรอิสระ หรือใครก็ตามก็เสนอเข้ามา จะไปแตะหมวด 1 หมวด 2 ก็เสนอเข้ามา จะได้รู้ประเด็นในการแก้ไข หากตีเช็คเปล่า เสนอมี ส.ส.ร. ยกร่างขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ไขทั้งฉบับโดยไม่มีรายละเอียดเราก็ไม่รู้ว่าเจตนาคืออะไร เพราะไม่มีโครงร่าง


นพ.เจตน์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สามารถส่งไปได้ โดยหลักการเท่าที่ผ่านมาในเรื่องการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตนคิดว่ายังไม่เคยมี และคิดว่ายากที่จะทำความสำเร็จ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับตีความทางกฎหมาย ตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ส่วนรายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่จะตามมาด้วยรายละเอียดและเหตุผลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะมีการแก้ไข โดยที่จะรู้ว่าท่านจะแก้ไขอะไรอย่างไร เมื่อไม่มีรายละเอียดตนคิดว่าเปรียบเสมือนการสร้างบ้าน หากเราจะสร้างบ้านก็จะต้องทำประชามติในที่นี้คล้ายกับถามประชาชนในครั้งที่ 1 เมื่อเราจะวางแผนสร้างอย่างไร จะมีกี่ชั้น มีห้องอะไรบ้าง ก็ต้องถามประชาชนเป็นครั้งที่ 2 และถามครั้งที่ 3 ว่าจะเอาหรือไม่เอา

นพ.เจตน์กล่าวว่า ตนในฐานะ สว. มิบังอาจที่จะสรุปตีความฟังธงว่าจะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง เพราะเรื่องนี้อยู่ที่องค์กรผู้มีอำนาจคือศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ หากท่านยอมรับเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร .-317 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%