มาตรการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในสถานพยาบาล

อุบลราชธานี 21 พ.ค. – สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เพิ่มมาตรการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในสถานพยาบาล โดยจำกัดสิทธิให้เฉพาะญาติบางคนเข้าถึงห้องฉุกเฉิน อาจใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือให้เจ้าหน้าที่พาเข้าไป 


การทะเลาะวิวาทภายในโรงพยาบาล 2 เหตุการณ์ซ้อน ทั้งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จ.ยโสธร และโรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี 2 วันก่อน เรียกเสียงวิจารณ์หนาหูถึงความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก นอกจากคนไข้คู่กรณีถูกซ้ำเติม เครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจกว่า 200,000 บาท ต้องพลอยเสียหายไปด้วย กระทบสิทธิการรักษาผู้ป่วยรายอื่น จึงมีการถามหามาตรการป้องกันสถานพยาบาล ที่แม้ในช่วงสงครามยังถูกยกให้เป็นสถานที่ปลอดภัย


สำหรับมาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จะมีการกลั่นกรองจำกัดสิทธิในห้องฉุกเฉิน เฉพาะญาติบางคน โดยอาจนำระบบสแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้ หรือให้เจ้าหน้าที่พาเข้า ตามปกติมีการประสานงานกับตำรวจ เพื่อระวังป้องกันเหตุลักษณะนี้อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่า ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุภายใน 2-3 นาทีเท่านั้น 


2 เหตุการณ์คล้ายกัน ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สั่งเด้งผู้กำกับการ สภ.เลิงนกทา และ สภ.เหล่าเสือโก้ก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นเวลา 30 วัน โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่ทางสังกัดเดิม 

วันนี้ ตำรวจ สภ.เหล่าเสือโก้ก ควบคุมตัวนายธนกฤติ มุ้งพร มือมีด ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เจ้าหน้าที่เห็นถึงความอุกอาจ ไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงแจ้งข้อหาทุกฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง ทั้งมีและพกพาอาวุธมีด บุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และพยายามฆ่า

นอกจากสถานพยาบาลปลายทางที่ต้องบูรณาการกำลังเข้าไปดูแลแล้ว ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ยังจะเข้าไปคุมเข้มรักษาความปลอดภัยในงานบุญประเพณี ที่มักเกิดเหตุทะเลาะวิวาทตั้งแต่ต้นทางด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย