น่าน 21 พ.ค.- แพทย์ รพ.น่านเผย 19 ผู้ป่วยเฉียบพลันกินหมูดิบอาการปลอดภัยแล้ว ผลตรวจวิเคราะห์พบเชื้อซัลโมเนลล่า ตระกูลเดียวกับไข้ไทฟอยด์ หรือรากสาดน้อย เน้นย้ำหากรุนแรง-รักษาไม่ทันถึงชีวิตได้
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชระไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยกรณีชาวบ้านปางเป๋ย อ.เมือง 19 ราย ถูกพาส่งโรงพยาบาลน่านเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จากการกินอาหารเนื้อหมูป่าแบบดิบแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดตามกล้ามเนื้อ และท้องเสียเฉียบพลันว่า ล่าสุด (21 พ.ค.) ผู้ป่วยทั้ง 19 ราย ปลอดภัยและดีขึ้นแล้ว แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งเคสนี้จากการตรวจสอบทราบว่ามีผู้กินหมูป่าด้วย 136 ราย กินสุก 117 ราย และดิบจนเกิดอาการป่วย 19 ราย ซึ่งการนำชิ้นเนื้อหมูและอุจจาระมาตรวจเพาะเชื้อปรากฏว่าเป็นเชื้อซัลโมเนลล่า Salmonella serogroup B ตระกูลเดียวกับโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย โดยสามารถรับเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้ผ่านทางการบริโภคอาหารและน้ำ หรือการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่มีเชื้อ ความรุนแรงของโรคในกรณีมีภาวะแทรกซ้อนและเข้ารับการรักษาไม่ทันอาจถึงเสียชีวิตได้
นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดน่านมีสถิติการเกิดโรคจากการทานหมูดิบช่วงปี 2557-2561 พบผู้ป่วย 146 ราย โดยพบผู้ป่วยเข้ารับการรักษามากที่สุดช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของทุกปี โดยเฉพาะช่วงปี 2558-2559 เคยมีการระบาดในพื้นที่บ้านน้ำโค้ง จำนวนผู้ป่วย 60 -70 คน แต่ครั้งนั้นเป็นหมูดำที่เลี้ยงตามบ้านและชุมชนมาทำอาหารดิบรับประทาน ส่วนใหญ่เชื้อนี้จะพบในลำไส้หมู ทำให้แพร่ระบาดขณะชำแหละที่ไม่ได้มาตรฐาน การผ่าชำแหละแล้วอุจจาระในลำไส้หมูออกมาปนเปื้อน ทำให้เชื้อกระจายได้ แต่หากนำมาปรุงให้สุกก็จะปลอดภัย จึงขอเตือนประชาชนควรงดและเลิกรับประทานอาหารที่ปรุงแบบดิบ ควรทานแบบปรุงสุกเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย