“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.ตรวจคุณสมบัติ “ระวี-สมเดช” ต้องคดี

กกต. 21 พ.ค.- “ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.ตรวจคุณสมบัติ “ระวี-สมเดช”   ต้องคดี ขาดคุณสมบัติ ส.ว.  ชี้  “พล.อ.ประยุทธ์” – กรรมการสรรหา ต้องรับผิดชอบ ปล่อยคนขาดคุณสมบัติเข้าสภา   


นายศรีสุวรรณ จรรยา  เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเปิดเผยว่าได้มายื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติของนายระวี รุ่งเรือง ส.ว. ลำดับที่ 146 อดีตเจ้าหน้าที่ปกครอง 3 อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี    และนายสมเดช  นิลพันธ์ ส.ว. ลำดับที่197 เนื่องจากพบว่ามีลักษณะต้องห้ามตาม  มาตรา 111 (4)  ประกอบมาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (1) มาตรา 98 (8) (10)  ของรัฐธรรมนูญ และ มาตรา 14 (10) (12) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และข้อ 3  ข้อ 52  (10) (12) ของ ระเบียบ กกต.  

นายศรีสะวรรณ กล่าวว่า  นายระวีเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ  เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ  กรณีเรียกรับเงินจากสมัครเป็นสมาชิก อส.จำนวน 6-8 ราย เพื่อพยายามจะช่วยให้ได้รับการคัดเลือกเป็น อส. แต่ไม่สามารถดำเนินการได้และถูกผู้ปกครองร้องเรียน จนมีเรื่องฟ้องร้อง และได้ยอมรับสารภาพในชั้นศาลว่ากระทำผิดจริง    ขณะที่ นายสมเดช เคยต้องคำพิพากษา  คดีกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ  เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ดินเทศบาลตำบลธรรมศาลา จ.นครปฐม  ซึ่งเป็นความผิดทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ    


“ทั้ง 2 คนถูกไล่ออกจากราชการ  และถูกดำเนินคดี โดยมีคำพิพากษาเป็นหลักฐานยืนยันและชัดเจน และการที่ อ้างว่ามี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2550 นั้น  เข้าใจว่า กกต.ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว  ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยแล้วว่า ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ว.  ดังนั้น สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 2 คน  จึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติชัดเจน”    นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หาก กกต.วินิจฉัยแล้วพบว่ามีความผิด ก็ขอให้ กกต.ดำเนินการลงโทษเอาผิดตามมาตรา  74   ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือก ไม่ว่าเพราะเหตุใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี  ปรับตั้งแต่ 20,000 – 2000,000 บาท   และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  20 ปี   และมาตรา  75 ผู้รับรอง หรือพยาน ที่ลงรายมือชื่อรับรองเอกสารที่ใช้ประกอบการสมัครเป็นเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000  หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  5 ปี  

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า จะยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลปกครอง  พร้อมทั้งจะไปยื่นเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา   และคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เนื่องจากต้องรับผิดชอบในการแต่งตั้งผู้ที่ไม่คุณสมบัติ 


“พล.อ.ประยุทธ์  และคณะกรรมการสรรหาที่ คสช. ตั้งขึ้นจะต้องแสดงความรับผิดชอบ จะทำเป็นไม่รู้เรื่อง และโบ้ยเรื่องไปให้คนอื่นไม่ได้ รวมทั้ง จะตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว.คนอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย”  นายศรีสุวรรณ กล่าว

และเมื่อถามว่า จะตรวจสอบเรื่องกรรมการสรรหา เสนอชื่อตัวเองเป็น ส.ว.ด้วยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า  พร้อมที่จะยื่นเอกสารให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเช่นกัน โดยจะยื่นให้ตรวจสอบพร้อมกับกรณีคุณสมบัติของนายระวีและ และนายสมเดช    

นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณ  ยังขอให้ กกต.ตรวจสอบนายชยุต สืบสกุล  ส.ว.ลำดับที่ 36  อดีตเลขานุการผู้ว่า กทม. ที่ถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ที่ถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด  อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม   จึงขอให้ กกต.ติดตามเรื่องดังกล่าวด้วย ..- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย