รัฐบาลเร่งพัฒนาบัณฑิตพันธุ์ใหม่รองรับอีอีซีกว่า 4 แสนคน

สกอ. 14 พ.ค. –  รัฐบาลดึงสถาบันการศึกษาร่วมผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ รองรับอีอีซี  475,000 คน 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือ “การสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เพื่อพัฒนากำลังคนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก”  เน้นย้ำว่าไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลจึงผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง การผลิตต่อหน่วยต้นทุนลดลง ความแม่นการผลิต  ระบบ BigData ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ทุกหน่วยงานต้องเก็บข้อมูล ทั้งลูกค้า นักเรียน การสอน การผลิตบุคลากร การศึกษาวิจัย นโยบายของรัฐออกมาจะผลิตบุคคลรองรับอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลนำไปใช้ประโยชน์ ขณะที่หน่วยงานไทยกุมข้อมูลเอาไว้เพื่อกุมอำนาจ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จึงต้องปรับพฤติกรรมดังกล่าว 


ปัจจุบันใช้ AI จัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ยอมรับว่าเทคโนโลยีกระทบไปในทุกวงการ ขณะที่วงการศึกษาต้องเร่งปรับตัวรองรับความต้องการแรงงานคุณภาพยุคใหม่  สำหรับภาคชนบทหากสอนให้ชุมชนเรื่องจัดทำเว็บไซต์ขายสินค้าผ่านออนไลน์ การผลักดันท่องเที่ยวเมืองรองในชุมชน  เพื่อให้ชาวบ้านมีเงินใช้จ่าย จึงต้องผลักดันให้เกิดอุตสหากรรมใหม่เพิ่มจาก 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เร่งพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาด้านเกษตรและการท่องเที่ยว เมื่อสินค้าเกษตรดีขึ้น การท่องเที่ยวจะตามมาหนุนให้มหาวิทยาลัยราชภัฏ การพัฒนาท้องถิ่นเน้นด้านเกษตร ท่องเที่ยว  ถึงเวลาแล้วสถาบันการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงการศึกษา รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้สำนักงบประมาณให้ความสำคัญพัฒนาด้านการศึกษา  มหาวิทยาลัยต้องพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนาบุคลากร  

สำหรับโมเดลใหม่ คือ บุคลากรต้องมีทักษะ ส่งเสริมให้เอกชนตั้งสถาบันขึ้นมาฝึกอบรมร่วมกับสถาบันการศึกษา เพราะจะรับรู้ความต้องการแรงงาน ภาคเอกชนออกมาร่วมมือและสอนเติมความรู้ในโรงงาน นับว่าเป็นความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน เพื่อให้ภาคเอกชนฝึก เนื่องจากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นศูนย์สำคัญในการสร้างแรงงานคุณภาพ ส่งเสริมให้สถาบันศึกษาต่างประเทศเข้าขยายการผลิตบุคคลากร ร่วมมือกับไทย  

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ชี้แจงว่าอีอีซีต้องการแรงงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผ่าน 7 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน  475,000 คน ผ่านการพัฒนาหลักสูตร 200 หลักสูตร โดยสาขาดิจิทัลต้องการแรงงาน 100,000 คน และด้านโลจิสติกส์ต้องการนับแสนคน  การประชุมในเวทีครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะรัฐบาลตั้งงบประมาณ เพื่อให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมดำเนินการรองรับนโยบายพัฒนาแรงงานแล้ว รัฐบาลเห็นความสำคัญในการพัฒนาด้านอาชีวะ จึงทดลองใช้สัตหีบโมเดล เริ่มพัฒนาเด็กอาชีวะ จ่ายเบี้ยเลี้ยง 4,000 บาทต่อเดือน เมื่อเรียนจบให้ค่าฝึกงาน 300 บาทต่อวัน หากเรียนจบรับเข้าทำงานเงินเดือนขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน จากเดิมผลิตได้ 200 คน ขยายเพิ่มเป็น 6,000 คนในปีนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะพ้นจากปัญหาผลิตบุคลากรมาแล้วตกงาน เพราะมีเอกชนสนใจจำนวนมากมาร่วมโครงการ 


นพ.อุดม คชินทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  รายงานที่ประชุม ว่า การผลิตบุคลากรของไทยยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานคุณภาพรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล  วันนี้ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติและความต้องการแรงงานต้องเพิ่มรายได้ประชากร 37,000 ดอลาร์สหรัฐต่อปี จากปัจจุบันมีเพียง 15,000 ดอลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อสถาบันอุดมศึกษาเป็นหัวขบวน เน้นการวิจัยและนวัตกรรมเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล  การสร้างองค์ความรู้ใหม่ ต้องร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน ต้องคิดใหญ่ สร้างคนไทย 4.0  มีความสามารถสูง ดิจิทัลไทยอยู่ในทุกเวทีโลกมีส่วนพัฒนาโลกให้ดีขึ้น

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีแผนสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ มุ่งจัดการด้วยข้อมูล Big DaTa ยกระดับการวิจัย เน้นสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ยกระดับการพัฒนาคนให้มีสมรรถนะสูง รองรับภาคอุตสาหกรรมและไทยแลนด์ 4.0 ต้องเรียนรู้มุมมองใหม่ ผลักดันการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มทักษะ นวัตกรรม ต้องสร้างแพลทฟอร์มเพื่อพัฒนาการเรียน การสอนยุคใหม่ให้คนทำงานมาเรียนเพิ่ม 8 เดือนถึง 1 ปี มาพัฒนาคุณภาพต่อยอดผ่านการเรียน การสอนใหม่ เพื่อร่วมดีไซน์หลักร่วมกับภาคเอกชน  โดยเน้นกลุ่มอาชีวะ ช่างฝีมือในสัดส่วนร้อยละ 70 ดำเนินการอย่างเร่งด่วนภายใน 1 ปี รองรับเอกชนที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก  ขณะที่ระดับปริญญาตรี โท เอก ต้องการประมาณร้อยละ 30 เพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ 

ขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) ปรับตัวรองรับเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ได้เร่งปรับตัวเน้นการวิจัย นวัตกรรม การส่งเสริมการเรียนจากประสบการณ์ทำงานจริง ความรู้เดิมจะหายไป การดึงดูดการลงทุน การเรียนรู้ร่วมกัน และเน้นใช้เทคโยโลยีร่วมกับวิทยาศาสตร์ สหรัฐทุกองค์กรปรับตัวหมดแล้ว ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีถึงร้อยละ 75 ขณะที่จีนประกาศการผลิตสินค้าออกสู่ตลาดโลก Made In china เป็นสินค้าคุณภาพอย่างภาพภูมิใจไม่มีลอกเลียนแบบ เมื่อทั่วโลกได้ปรับตัวแล้ว ประเทศจึงต้องเร่งปรับตัวรองรับกระแสโลกยุคดิจิตอล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]