รัฐบาลเร่งพัฒนาบัณฑิตพันธุ์ใหม่รองรับอีอีซีกว่า 4 แสนคน

สกอ. 14 พ.ค. –  รัฐบาลดึงสถาบันการศึกษาร่วมผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ รองรับอีอีซี  475,000 คน 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือ “การสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เพื่อพัฒนากำลังคนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก”  เน้นย้ำว่าไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลจึงผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง การผลิตต่อหน่วยต้นทุนลดลง ความแม่นการผลิต  ระบบ BigData ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ทุกหน่วยงานต้องเก็บข้อมูล ทั้งลูกค้า นักเรียน การสอน การผลิตบุคลากร การศึกษาวิจัย นโยบายของรัฐออกมาจะผลิตบุคคลรองรับอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลนำไปใช้ประโยชน์ ขณะที่หน่วยงานไทยกุมข้อมูลเอาไว้เพื่อกุมอำนาจ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จึงต้องปรับพฤติกรรมดังกล่าว 


ปัจจุบันใช้ AI จัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ยอมรับว่าเทคโนโลยีกระทบไปในทุกวงการ ขณะที่วงการศึกษาต้องเร่งปรับตัวรองรับความต้องการแรงงานคุณภาพยุคใหม่  สำหรับภาคชนบทหากสอนให้ชุมชนเรื่องจัดทำเว็บไซต์ขายสินค้าผ่านออนไลน์ การผลักดันท่องเที่ยวเมืองรองในชุมชน  เพื่อให้ชาวบ้านมีเงินใช้จ่าย จึงต้องผลักดันให้เกิดอุตสหากรรมใหม่เพิ่มจาก 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เร่งพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาด้านเกษตรและการท่องเที่ยว เมื่อสินค้าเกษตรดีขึ้น การท่องเที่ยวจะตามมาหนุนให้มหาวิทยาลัยราชภัฏ การพัฒนาท้องถิ่นเน้นด้านเกษตร ท่องเที่ยว  ถึงเวลาแล้วสถาบันการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงการศึกษา รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้สำนักงบประมาณให้ความสำคัญพัฒนาด้านการศึกษา  มหาวิทยาลัยต้องพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนาบุคลากร  

สำหรับโมเดลใหม่ คือ บุคลากรต้องมีทักษะ ส่งเสริมให้เอกชนตั้งสถาบันขึ้นมาฝึกอบรมร่วมกับสถาบันการศึกษา เพราะจะรับรู้ความต้องการแรงงาน ภาคเอกชนออกมาร่วมมือและสอนเติมความรู้ในโรงงาน นับว่าเป็นความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน เพื่อให้ภาคเอกชนฝึก เนื่องจากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นศูนย์สำคัญในการสร้างแรงงานคุณภาพ ส่งเสริมให้สถาบันศึกษาต่างประเทศเข้าขยายการผลิตบุคคลากร ร่วมมือกับไทย  

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ชี้แจงว่าอีอีซีต้องการแรงงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผ่าน 7 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน  475,000 คน ผ่านการพัฒนาหลักสูตร 200 หลักสูตร โดยสาขาดิจิทัลต้องการแรงงาน 100,000 คน และด้านโลจิสติกส์ต้องการนับแสนคน  การประชุมในเวทีครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะรัฐบาลตั้งงบประมาณ เพื่อให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมดำเนินการรองรับนโยบายพัฒนาแรงงานแล้ว รัฐบาลเห็นความสำคัญในการพัฒนาด้านอาชีวะ จึงทดลองใช้สัตหีบโมเดล เริ่มพัฒนาเด็กอาชีวะ จ่ายเบี้ยเลี้ยง 4,000 บาทต่อเดือน เมื่อเรียนจบให้ค่าฝึกงาน 300 บาทต่อวัน หากเรียนจบรับเข้าทำงานเงินเดือนขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน จากเดิมผลิตได้ 200 คน ขยายเพิ่มเป็น 6,000 คนในปีนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะพ้นจากปัญหาผลิตบุคลากรมาแล้วตกงาน เพราะมีเอกชนสนใจจำนวนมากมาร่วมโครงการ 


นพ.อุดม คชินทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  รายงานที่ประชุม ว่า การผลิตบุคลากรของไทยยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานคุณภาพรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล  วันนี้ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติและความต้องการแรงงานต้องเพิ่มรายได้ประชากร 37,000 ดอลาร์สหรัฐต่อปี จากปัจจุบันมีเพียง 15,000 ดอลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อสถาบันอุดมศึกษาเป็นหัวขบวน เน้นการวิจัยและนวัตกรรมเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล  การสร้างองค์ความรู้ใหม่ ต้องร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน ต้องคิดใหญ่ สร้างคนไทย 4.0  มีความสามารถสูง ดิจิทัลไทยอยู่ในทุกเวทีโลกมีส่วนพัฒนาโลกให้ดีขึ้น

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีแผนสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ มุ่งจัดการด้วยข้อมูล Big DaTa ยกระดับการวิจัย เน้นสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ยกระดับการพัฒนาคนให้มีสมรรถนะสูง รองรับภาคอุตสาหกรรมและไทยแลนด์ 4.0 ต้องเรียนรู้มุมมองใหม่ ผลักดันการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มทักษะ นวัตกรรม ต้องสร้างแพลทฟอร์มเพื่อพัฒนาการเรียน การสอนยุคใหม่ให้คนทำงานมาเรียนเพิ่ม 8 เดือนถึง 1 ปี มาพัฒนาคุณภาพต่อยอดผ่านการเรียน การสอนใหม่ เพื่อร่วมดีไซน์หลักร่วมกับภาคเอกชน  โดยเน้นกลุ่มอาชีวะ ช่างฝีมือในสัดส่วนร้อยละ 70 ดำเนินการอย่างเร่งด่วนภายใน 1 ปี รองรับเอกชนที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก  ขณะที่ระดับปริญญาตรี โท เอก ต้องการประมาณร้อยละ 30 เพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ 

ขณะนี้สหภาพยุโรป (อียู) ปรับตัวรองรับเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ได้เร่งปรับตัวเน้นการวิจัย นวัตกรรม การส่งเสริมการเรียนจากประสบการณ์ทำงานจริง ความรู้เดิมจะหายไป การดึงดูดการลงทุน การเรียนรู้ร่วมกัน และเน้นใช้เทคโยโลยีร่วมกับวิทยาศาสตร์ สหรัฐทุกองค์กรปรับตัวหมดแล้ว ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีถึงร้อยละ 75 ขณะที่จีนประกาศการผลิตสินค้าออกสู่ตลาดโลก Made In china เป็นสินค้าคุณภาพอย่างภาพภูมิใจไม่มีลอกเลียนแบบ เมื่อทั่วโลกได้ปรับตัวแล้ว ประเทศจึงต้องเร่งปรับตัวรองรับกระแสโลกยุคดิจิตอล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้