“ธนาธร” พร้อมพูดคุยทุกพรรคร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว.สกัดสืบทอดอำนาจ

กกต. 10 พ.ค.-“ธนาธร” เผยเริ่มเจรจาหลายพรรคการเมือง ร่วมปิดสวิตช์ ส.ว.สกัดสืบทอดอำนาจ มั่นใจเป็นไปได้ เพราะ พปชร.มีแค่ 121 เสียง ไม่ปฏิเสธมีขั้วการเมืองที่ 3 ชัดเจนก่อนเปิดสภานัดแรก ยืนยันไม่กังวลถูกสอบเพิ่มถือหุ้น 13 บริษัทมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อฯ  แจงโอนทั้งหมดตั้งแต่ 8 ม.ค. พร้อมของบริษัท วีลัค มีเดีย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 พ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เดินทางมารับใบรับรองความเป็น ส.ส. จาก กกต.

โดยนายธนาธร กล่าวขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ให้เข้ามาเป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภา โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่อวดเบ่ง รวมถึงจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย


นายธนาธร ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวบรวมเสียงข้างมากเกินครึ่งในสภาได้ เพราะในขณะนี้เสียงพรรคพลังประชารัฐกับอีก 2 พรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนเสียงเพียงแค่ 115 + 5 + 1 รวมเป็น 121 เสียงเท่านั้น  แม้จะไปรวมกับเสียง ส.ว. จำนวน 250 เสียง ก็ยังไม่ถึง 376 เสียงที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นข้อเสนอของพรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอให้พรรคการเมืองที่เคยประกาศต่อต้านการสืบทอดอำนาจร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว. จึงเป็นแนวทางที่เป็นไปได้ และอยากให้ประชาชนตรวจสอบพรรคการเมืองเหล่านี้ด้วยว่าปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ  โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เชื่อว่าจะมีบทสรุปที่ชัดเจนก่อนการประชุมสภานัดแรกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันสัตยาบันที่ 7 พรรคการเมืองทำร่วมกันในการคัดค้านการสืบทอดอำนาจ และมั่นใจว่าไม่มีลูกพรรคอนาคตใหม่ออกนอกแถวไปสนับสนุนขั้วการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ  โดยไม่ได้มีการให้ ส.ส.ของพรรคเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า เพราะพรรคอนาคตใหม่ร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์ อีกทั้งไม่ปฏิเสธแนวทางที่จะเกิดขั้วการเมืองที่ 3 แต่ในขณะนี้ยังไม่มุ่งเน้นเรื่องการตั้งรัฐบาล  ขอเดินหน้าสกัดการสืบทอดอำนาจก่อน  และยังเชื่อว่าเป็นไปได้

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบกิจการสื่อเพิ่มอีก 13 บริษัท ว่า ไม่มีความกังวลใจใด ๆ เพราะได้ดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนตามกฎหมาย  ตั้งแต่ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีการโอนหุ้นทั้งหมดในวันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโอนหุ้น บริษัท วีลัค มีเดีย

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันว่ามีพรรคการเมืองพยายามทาบทามติดต่อ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ตามข่าวจริง โดยมี ส.ส.ของพรรคหลายคนบอก และหากมีการทาบทามต่อเนื่องและมีความพยายามที่จะใช้วิธีดึง ส.ส. เราอาจจะนำหลักฐานการทาบทามมาเปิดเผย แต่ยืนยันว่า ส.ส.ที่ถูกทาบทามทุกคน จะไม่ไปแน่นอน


“สิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ เรากำลังพุ่งตรงไปที่การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ได้พูดกันถึงการจัดตั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด หากทุกพรรคการเมืองที่เคยได้หาเสียงเอาไว้ว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. วันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์สิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อมาตัดสินใจร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยใช้สูตรการปิดสวิตช์ ส.ว. ร่วมกันนำทหารออกจากการเมืองไทย” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องหุ้นของนายธนาธร  ว่า นักการเมืองถือเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบความผิด ก็ขอแสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดนั้นด้วย รวมทั้งสำนักข่าวที่ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ขออย่าเสียเวลาเจาะข่าว เพราะหากอยากดูข้อมูล ทางพรรคก็สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยได้ จึงอย่าเสียเวลาตรวจสอบ ควรตรวจสอบเรื่องที่สำคัญ เช่น ตรวจสอบว่า ส.ว. 250 คน เป็นใครมาจากไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายธนาธร นายปิยบุตร  และ น.ส.พรรณิการ์ เข้ารับหนังสือรับรอง ส.ส.จาก กกต.แล้ว และสื่อมวลชนขอให้ชูหนังสือรับรองเพื่อบันทึกภาพ แต่ทั้ง 3 คนได้ปฏิเสธ โดยนายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นการทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายเท่านั้น  แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็น ส.ส.เกิดขึ้น ตั้งแต่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ไม่ใช่เกิดจากการรับรองของ กกต. จึงไม่ขอแสดงเอกสารดังกล่าว

“การมารับหนังสือรับรอง ส.ส. ถือเป็นกระบวนการเอกสารตามกฏหมายเท่านั้น แท้จริงแล้วความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกิดขึ้นเมี่อประชาชนเลือกเราเข้ามาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ไม่ใช่เกิดจากการที่ กกต.ให้การรับรอง เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ได้มาจากการรับรองของ กกต.” นายธนาธร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย