“ธนาธร” พร้อมพูดคุยทุกพรรคร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว.สกัดสืบทอดอำนาจ

กกต. 10 พ.ค.-“ธนาธร” เผยเริ่มเจรจาหลายพรรคการเมือง ร่วมปิดสวิตช์ ส.ว.สกัดสืบทอดอำนาจ มั่นใจเป็นไปได้ เพราะ พปชร.มีแค่ 121 เสียง ไม่ปฏิเสธมีขั้วการเมืองที่ 3 ชัดเจนก่อนเปิดสภานัดแรก ยืนยันไม่กังวลถูกสอบเพิ่มถือหุ้น 13 บริษัทมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อฯ  แจงโอนทั้งหมดตั้งแต่ 8 ม.ค. พร้อมของบริษัท วีลัค มีเดีย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 พ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เดินทางมารับใบรับรองความเป็น ส.ส. จาก กกต.

โดยนายธนาธร กล่าวขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ให้เข้ามาเป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภา โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่อวดเบ่ง รวมถึงจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย


นายธนาธร ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวบรวมเสียงข้างมากเกินครึ่งในสภาได้ เพราะในขณะนี้เสียงพรรคพลังประชารัฐกับอีก 2 พรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนเสียงเพียงแค่ 115 + 5 + 1 รวมเป็น 121 เสียงเท่านั้น  แม้จะไปรวมกับเสียง ส.ว. จำนวน 250 เสียง ก็ยังไม่ถึง 376 เสียงที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นข้อเสนอของพรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอให้พรรคการเมืองที่เคยประกาศต่อต้านการสืบทอดอำนาจร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว. จึงเป็นแนวทางที่เป็นไปได้ และอยากให้ประชาชนตรวจสอบพรรคการเมืองเหล่านี้ด้วยว่าปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ  โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เชื่อว่าจะมีบทสรุปที่ชัดเจนก่อนการประชุมสภานัดแรกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันสัตยาบันที่ 7 พรรคการเมืองทำร่วมกันในการคัดค้านการสืบทอดอำนาจ และมั่นใจว่าไม่มีลูกพรรคอนาคตใหม่ออกนอกแถวไปสนับสนุนขั้วการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ  โดยไม่ได้มีการให้ ส.ส.ของพรรคเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า เพราะพรรคอนาคตใหม่ร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์ อีกทั้งไม่ปฏิเสธแนวทางที่จะเกิดขั้วการเมืองที่ 3 แต่ในขณะนี้ยังไม่มุ่งเน้นเรื่องการตั้งรัฐบาล  ขอเดินหน้าสกัดการสืบทอดอำนาจก่อน  และยังเชื่อว่าเป็นไปได้

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบกิจการสื่อเพิ่มอีก 13 บริษัท ว่า ไม่มีความกังวลใจใด ๆ เพราะได้ดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนตามกฎหมาย  ตั้งแต่ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีการโอนหุ้นทั้งหมดในวันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโอนหุ้น บริษัท วีลัค มีเดีย

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันว่ามีพรรคการเมืองพยายามทาบทามติดต่อ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ตามข่าวจริง โดยมี ส.ส.ของพรรคหลายคนบอก และหากมีการทาบทามต่อเนื่องและมีความพยายามที่จะใช้วิธีดึง ส.ส. เราอาจจะนำหลักฐานการทาบทามมาเปิดเผย แต่ยืนยันว่า ส.ส.ที่ถูกทาบทามทุกคน จะไม่ไปแน่นอน


“สิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ เรากำลังพุ่งตรงไปที่การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ได้พูดกันถึงการจัดตั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด หากทุกพรรคการเมืองที่เคยได้หาเสียงเอาไว้ว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. วันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์สิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อมาตัดสินใจร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยใช้สูตรการปิดสวิตช์ ส.ว. ร่วมกันนำทหารออกจากการเมืองไทย” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องหุ้นของนายธนาธร  ว่า นักการเมืองถือเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบความผิด ก็ขอแสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดนั้นด้วย รวมทั้งสำนักข่าวที่ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ขออย่าเสียเวลาเจาะข่าว เพราะหากอยากดูข้อมูล ทางพรรคก็สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยได้ จึงอย่าเสียเวลาตรวจสอบ ควรตรวจสอบเรื่องที่สำคัญ เช่น ตรวจสอบว่า ส.ว. 250 คน เป็นใครมาจากไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายธนาธร นายปิยบุตร  และ น.ส.พรรณิการ์ เข้ารับหนังสือรับรอง ส.ส.จาก กกต.แล้ว และสื่อมวลชนขอให้ชูหนังสือรับรองเพื่อบันทึกภาพ แต่ทั้ง 3 คนได้ปฏิเสธ โดยนายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นการทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายเท่านั้น  แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็น ส.ส.เกิดขึ้น ตั้งแต่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ไม่ใช่เกิดจากการรับรองของ กกต. จึงไม่ขอแสดงเอกสารดังกล่าว

“การมารับหนังสือรับรอง ส.ส. ถือเป็นกระบวนการเอกสารตามกฏหมายเท่านั้น แท้จริงแล้วความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกิดขึ้นเมี่อประชาชนเลือกเราเข้ามาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ไม่ใช่เกิดจากการที่ กกต.ให้การรับรอง เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ได้มาจากการรับรองของ กกต.” นายธนาธร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย