กาญจนบุรี 9 พ.ค.-แก๊งมิจฉาชีพอาละวาด ปลอมลอตเตอรี่ขึ้นเงินรางวัลในหลายจังหวัด แนบเนียนแก้ไขตัวเลขและคิวอาร์โค้ด แม่ค้าสูญเงินหลายแสนบาท ตำรวจตั้งรางวัลนำจับ
ความคืบหน้ากรณีนางสาวสิริมนต์ ดำรงรักษ์ เจ้าของร้านขายลอตเตอรี่และหนังสือพิมพ์ในตลาดสดเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ถูกชายอายุ 35 ปี นำลอตเตอรี่ปลอม งวดประจำวันที่ 16 เมษายน 2562 หมายเลข 629457 มาขึ้นเงินรางวัล ซึ่งถูกรางวัลที่ 2 จำนวน 1 ใบ เป็นเงิน 200,000 บาท โดยผู้เสียหายได้ตั้งรางวัลนำจับ 10,000 บาท สำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ล่าสุดตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยหลังได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้สอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน และทำหนังสือไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอให้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับลอตเตอรี่ปลอมฉบับดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นหลักฐานยื่นขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน ที่ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ เบื้องต้นคาดเป็นคนนอกพื้นที่ แต่เข้ามาทำงานและตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี เชื่อจะจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน
ส่วนการตรวจสอบลอตเตอรี่เบื้องต้น เมื่อขูดตัวเลขตามแนวนอนจะไม่ปรากฏความผิดปกติใดๆ ไม่มีร่องรอยการปลอมแปลงให้เห็น และสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ตามปกติ แต่เมื่อขูดตัวเลขตามแนวตั้งครั้งละตัวจะทราบทันทีว่าเป็นของปลอม
ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี ก็พบมีการนำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินรางวัลเช่นกัน นางโสพิศ ลีหางาม เจ้าของแผงลอตเตอรี่ โชว์ภาพถ่ายใบหน้าคนร้ายที่ตนเองถ่ายไว้ได้อย่างชัดเจน เปรียบเทียบกับภาพคนร้ายที่เคยก่อเหตุในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งเป็นคนเดียวกัน โดยคนร้ายมาหลอกขึ้นเงินรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และรางวัลที่ 4 งวดวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 8 ใบ เป็นเงินกว่า 70,000 บาท ซึ่งทำกันเป็นขบวนการ เริ่มแรกมีผู้หญิงมาขึ้นเงินรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 4 ใบ จากนั้นผู้ชายคนในภาพก็เข้ามาขึ้นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และรางวัลที่ 4 ตนจึงขอถ่ายบัตรประชาชนไว้ แต่คนร้ายบอกว่าไม่มี จึงได้แต่ถ่ายรูปหน้าคนร้ายไว้ ยอมรับปลอมแปลงได้แนบเนียนมาก ตนตรวจสอบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน แต่ไม่พบความผิดปกติ เพิ่งมารู้ว่าเป็นของปลอมตอนที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยืนยันและส่งคืนกลับมา ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองหาน
ขณะที่ พันตำรวจเอกบุญส่ง จันทรีศรี ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บอกว่าการปลอมแปลงลอตเตอรี่มีโทษอาญา จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท เตือนผู้รับขึ้นเงินรางวัลให้ตรวจสอบสลากอย่างละเอียด เช่น ความหนาบางของกระดาษ รูปภาพสลาก ขนาดตัวเลขและตัวอักษร รวมถึงคุณลักษณะพิเศษต่างๆ ของสลาก อีกทั้งยังสามารถใช้กล้องหรือแว่นขยายตรวจหาร่องรอยการแก้ไขได้ ที่สำคัญต้องให้ผู้มาขึ้นเงินรางวัลแสดงบัตรประชาชนทุกครั้ง พร้อมถ่ายสำเนา และให้เซ็นชื่อระบุเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่ด้านหลังสลากด้วย หรือถ่ายภาพเจ้าของสลากคู่กับตัวสลาก และติดตั้งกล้องวงจรปิด สิ่งเหล่านี้จะช่วยคัดกรองป้องกันมิจฉาชีพได้.-สำนักข่าวไทย
