วัยรุ่นภูเก็ตลุยล่าเหรียญ หวังเจอนำไปขึ้นเงินรางวัล

22 ม.ค. – กระแสวัยรุ่น-คนทำงาน ออกตามล่าหาเหรียญ เพื่อแลกเงินรางวัล ผ่านแอปฯ “Jagat coin Hunt” ของอินโดนีเซีย ด้านตำรวจไซเบอร์เตือนการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก


ที่ จ.ภูเก็ต ตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตเทศบาล สวนสาธารณะ ย่านเมืองเก่า มีกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ออกมาเดินหาเหรียญตามพิกัดต่างๆ ที่มีการระบุอยู่ในแอปพลิเคชัน Jagat coin Hunt ซึ่งพบว่ามีผู้เจอ ทำให้หลายคนมีความมั่นใจที่จะค้นหาเหรียญ และคาดหวังเป็นผู้โชคดี หากเจอเหรียญจะได้นำไปขึ้นเป็นเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ยังล่าเหรียญ แต่น้อยลง ส่วนชาวบ้านไม่ชอบใจ
ที่ จ.เชียงใหม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นตามล่าหาเหรียญ Jagat บริเวณริมถนน และรั้วบ้านอย่างจริงจัง แต่กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เพราะไปเหยียบต้นไม้ ปีนรั้วเปรอะเปื้อน เจ้าของบ้านบอกว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ 3 วันก่อน ช่วงเย็นเห็นวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์มาหน้าบ้านและหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง จึงเข้าไปถามและทราบว่ามาตามล่าเหรียญ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังทยอยมาเรื่อยๆ ถึงดึกดื่น เช่นเดียวกับชาวบ้านในย่านนี้ที่อยากให้เล่นอยู่ในขอบเขต ไม่สร้างความเดือดร้อนและรุกล้ำสิทธิของคนอื่น


ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่ในแอปฯ แจ้งว่ายังมีเหรียญ Jagat อยู่ จากเดิมมี 29 เหรียญ ตอนนี้เหลือ 1-2 เหรียญ พบวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งยังตามหาอยู่ ยอมรับหามา 3-4 วันแล้วแต่ยังไม่ได้ ส่วนที่มีกระแสเตือนให้ระวังทั้งการบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล และแอปฯ ที่ดึงข้อมูลส่วนตัว รู้สึกกังวลและระมัดระวังในการหาเหรียญมากขึ้น

แหล่งท่องเที่ยวเสียหาย จ่อใช้กฎหมายกับผู้บุกรุก
ส่วนที่พัทยา วอเตอร์สเปซ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองพัทยา ได้รับความเสียหายจากที่มีนักล่าเหรียญเข้ามาค้นหาเหรียญโดยไม่มีการขออนุญาต นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน งัดแงะปลั๊กไฟและขับรถจักรยานยนต์ขึ้นบันได ทำให้ปูนแตกและเกิดความเสียหายรุนแรง จึงออกมาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลประโยชน์ใดๆ กับแอปฯ ดังกล่าว และเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน

ตร.ไซเบอร์เตือนภัยภารกิจล่าเหรียญเสี่ยงติดคุก
ด้านตำรวจไซเบอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงท่านอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันที่ท่านอยู่ ซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเองอีกด้วย จึงขอให้พึงระวังไม่กระทำผิดกฎหมายขณะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว


แอปฯ ล่าเหรียญ “Jagat”
Jagat แปลว่า “จักรวาล” ในภาษาอินโดนีเซีย เป็นแอปพลิเคชันที่กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่น ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง “Coin Hunt” ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาเหรียญตามจุดต่างๆ ในสถานที่จริงเพื่อนำไปแลกรางวัลเงินสด แม้จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2568 ในอินโดนีเซีย แต่แอปฯ นี้กลับได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสื่อโซเชียล โดยเฉพาะบน TikTok ความสำเร็จของ Jagat มาพร้อมกับประเด็นถกเถียงทั้งในแง่ความปลอดภัยและผลกระทบต่อสังคม

Jagat มีความคล้ายคลึงกับเกม Pokémon Go ในแง่ของการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) แต่จุดเด่นของ Jagat อยู่ที่การตามหา “เหรียญจริง” ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นเงินสด โดยเหรียญที่พบจะมีมูลค่าต่างกัน ตั้งแต่เหรียญทองแดงที่แลกรางวัลได้ 500-2,000 บาท ไปจนถึงเหรียญทองที่มีมูลค่าสูงถึง 200,000 บาท ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากตื่นเต้นและเข้าร่วมกิจกรรมล่าเหรียญในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา เพื่อเข้าร่วมเกม ผู้เล่นต้องสมัครและชำระค่าธรรมเนียมในการเล่น พร้อมทั้งสามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อซื้อคำใบ้ที่ช่วยให้ค้นหาเหรียญได้ง่ายขึ้น เมื่อพบเหรียญ ผู้เล่นต้องกรอกรหัสในแอปฯ เพื่อรับเงินรางวัล ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีภายใน 2-3 วัน ฟีเจอร์นี้สร้างแรงจูงใจให้วัยรุ่นจำนวนมากเข้าร่วมล่าเหรียญอย่างจริงจัง

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ระบุว่าขณะนี้ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับแอปฯ เกมลักษณะนี้ แต่ สกมช. เฝ้าติดตามและยังไม่มีผู้ร้องเรียนมาแต่อย่างใด

จากการติดตามกระทบขณะนี้บุคคลผู้เล่นอาจไปบุกรุกสถานที่คนอื่น ก่อเรื่องรำคาญเพื่อหาเหรียญ นอกจากนี้ผู้เล่นอาจมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เพราะผู้เล่นต้องเปิดโลเกชั่นหรือสถานที่ของของตัวเอง ทำให้ผู้ให้บริการรับทราบความเคลื่อนไหว ในเรื่องนี้ถือเป็นความเสี่ยงของผู้เล่น และเสี่ยงต่อพื้นที่ได้ รวมถึงข้อมูลบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินรางวัล ซึ่งไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่ชัดเจน

ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรื่องการถูกโกงในการเล่นเกม แต่ผู้เล่นจะมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ต้องส่งบัญชีการเงินที่ต้องเปิดเผย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ออกมาเตือนแล้ว ผู้เล่นควรระมัดระวัง

สคส.จ่อถก ETDA ปม Jagat ล่าเหรียญ เสี่ยงมิจฉาชีพไซเบอร์
พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยอมรับว่าแอปฯ Jagat ล่าเหรียญ มีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยและเสี่ยงถูกดึงเงินจากแอปฯ ธนาคาร เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้ทั้งหมด และเข้าถึง location ของผู้ใช้งาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา จึงทำได้เพียงจับตาและเฝ้าระวัง

อย่างไรก็ตาม เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่กำกับดูแล new tech ต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชัน เพื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของแอปฯ พร้อมหารือแนวทางดำเนินงานร่วมในการป้องกันความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย