วัยรุ่นภูเก็ตลุยล่าเหรียญ หวังเจอนำไปขึ้นเงินรางวัล

22 ม.ค. – กระแสวัยรุ่น-คนทำงาน ออกตามล่าหาเหรียญ เพื่อแลกเงินรางวัล ผ่านแอปฯ “Jagat coin Hunt” ของอินโดนีเซีย ด้านตำรวจไซเบอร์เตือนการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก


ที่ จ.ภูเก็ต ตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตเทศบาล สวนสาธารณะ ย่านเมืองเก่า มีกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ออกมาเดินหาเหรียญตามพิกัดต่างๆ ที่มีการระบุอยู่ในแอปพลิเคชัน Jagat coin Hunt ซึ่งพบว่ามีผู้เจอ ทำให้หลายคนมีความมั่นใจที่จะค้นหาเหรียญ และคาดหวังเป็นผู้โชคดี หากเจอเหรียญจะได้นำไปขึ้นเป็นเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ยังล่าเหรียญ แต่น้อยลง ส่วนชาวบ้านไม่ชอบใจ
ที่ จ.เชียงใหม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นตามล่าหาเหรียญ Jagat บริเวณริมถนน และรั้วบ้านอย่างจริงจัง แต่กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เพราะไปเหยียบต้นไม้ ปีนรั้วเปรอะเปื้อน เจ้าของบ้านบอกว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ 3 วันก่อน ช่วงเย็นเห็นวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์มาหน้าบ้านและหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง จึงเข้าไปถามและทราบว่ามาตามล่าเหรียญ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังทยอยมาเรื่อยๆ ถึงดึกดื่น เช่นเดียวกับชาวบ้านในย่านนี้ที่อยากให้เล่นอยู่ในขอบเขต ไม่สร้างความเดือดร้อนและรุกล้ำสิทธิของคนอื่น


ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่ในแอปฯ แจ้งว่ายังมีเหรียญ Jagat อยู่ จากเดิมมี 29 เหรียญ ตอนนี้เหลือ 1-2 เหรียญ พบวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งยังตามหาอยู่ ยอมรับหามา 3-4 วันแล้วแต่ยังไม่ได้ ส่วนที่มีกระแสเตือนให้ระวังทั้งการบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล และแอปฯ ที่ดึงข้อมูลส่วนตัว รู้สึกกังวลและระมัดระวังในการหาเหรียญมากขึ้น

แหล่งท่องเที่ยวเสียหาย จ่อใช้กฎหมายกับผู้บุกรุก
ส่วนที่พัทยา วอเตอร์สเปซ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองพัทยา ได้รับความเสียหายจากที่มีนักล่าเหรียญเข้ามาค้นหาเหรียญโดยไม่มีการขออนุญาต นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน งัดแงะปลั๊กไฟและขับรถจักรยานยนต์ขึ้นบันได ทำให้ปูนแตกและเกิดความเสียหายรุนแรง จึงออกมาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลประโยชน์ใดๆ กับแอปฯ ดังกล่าว และเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน

ตร.ไซเบอร์เตือนภัยภารกิจล่าเหรียญเสี่ยงติดคุก
ด้านตำรวจไซเบอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงท่านอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันที่ท่านอยู่ ซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเองอีกด้วย จึงขอให้พึงระวังไม่กระทำผิดกฎหมายขณะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว


แอปฯ ล่าเหรียญ “Jagat”
Jagat แปลว่า “จักรวาล” ในภาษาอินโดนีเซีย เป็นแอปพลิเคชันที่กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่น ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง “Coin Hunt” ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาเหรียญตามจุดต่างๆ ในสถานที่จริงเพื่อนำไปแลกรางวัลเงินสด แม้จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2568 ในอินโดนีเซีย แต่แอปฯ นี้กลับได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสื่อโซเชียล โดยเฉพาะบน TikTok ความสำเร็จของ Jagat มาพร้อมกับประเด็นถกเถียงทั้งในแง่ความปลอดภัยและผลกระทบต่อสังคม

Jagat มีความคล้ายคลึงกับเกม Pokémon Go ในแง่ของการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) แต่จุดเด่นของ Jagat อยู่ที่การตามหา “เหรียญจริง” ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นเงินสด โดยเหรียญที่พบจะมีมูลค่าต่างกัน ตั้งแต่เหรียญทองแดงที่แลกรางวัลได้ 500-2,000 บาท ไปจนถึงเหรียญทองที่มีมูลค่าสูงถึง 200,000 บาท ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากตื่นเต้นและเข้าร่วมกิจกรรมล่าเหรียญในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา เพื่อเข้าร่วมเกม ผู้เล่นต้องสมัครและชำระค่าธรรมเนียมในการเล่น พร้อมทั้งสามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อซื้อคำใบ้ที่ช่วยให้ค้นหาเหรียญได้ง่ายขึ้น เมื่อพบเหรียญ ผู้เล่นต้องกรอกรหัสในแอปฯ เพื่อรับเงินรางวัล ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีภายใน 2-3 วัน ฟีเจอร์นี้สร้างแรงจูงใจให้วัยรุ่นจำนวนมากเข้าร่วมล่าเหรียญอย่างจริงจัง

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ระบุว่าขณะนี้ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับแอปฯ เกมลักษณะนี้ แต่ สกมช. เฝ้าติดตามและยังไม่มีผู้ร้องเรียนมาแต่อย่างใด

จากการติดตามกระทบขณะนี้บุคคลผู้เล่นอาจไปบุกรุกสถานที่คนอื่น ก่อเรื่องรำคาญเพื่อหาเหรียญ นอกจากนี้ผู้เล่นอาจมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เพราะผู้เล่นต้องเปิดโลเกชั่นหรือสถานที่ของของตัวเอง ทำให้ผู้ให้บริการรับทราบความเคลื่อนไหว ในเรื่องนี้ถือเป็นความเสี่ยงของผู้เล่น และเสี่ยงต่อพื้นที่ได้ รวมถึงข้อมูลบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินรางวัล ซึ่งไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่ชัดเจน

ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรื่องการถูกโกงในการเล่นเกม แต่ผู้เล่นจะมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ต้องส่งบัญชีการเงินที่ต้องเปิดเผย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ออกมาเตือนแล้ว ผู้เล่นควรระมัดระวัง

สคส.จ่อถก ETDA ปม Jagat ล่าเหรียญ เสี่ยงมิจฉาชีพไซเบอร์
พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยอมรับว่าแอปฯ Jagat ล่าเหรียญ มีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยและเสี่ยงถูกดึงเงินจากแอปฯ ธนาคาร เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้ทั้งหมด และเข้าถึง location ของผู้ใช้งาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา จึงทำได้เพียงจับตาและเฝ้าระวัง

อย่างไรก็ตาม เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่กำกับดูแล new tech ต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชัน เพื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของแอปฯ พร้อมหารือแนวทางดำเนินงานร่วมในการป้องกันความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]