ที่นี่แอนฟิลด์! ลิเวอร์พูล วิ่งสู้ฟัดถล่ม บาร์เซโลนา 4-0 (ผลรวม 4-3) เข้ารอบชิงฯ ยูฟ่า

อังกฤษ 8 พ.ค. – ลิเวอร์พูล สร้างปาฏิหาริย์ พลิกกลับมาดับซ่า บาร์เซโลนา ชนิดช็อกแฟนบอลทั่วโลก ไปยืนรอชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอพบอาแจ็กซ์ หรือ สเปอร์ส ที่จะเตะคืนนี้





หลังจาก ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์เป็นรอง บาร์เซโลน่า อยู่ 0-3 แต่กลับมาโชว์ฟอร์มเทพเปิดสนามแอนฟิลด์ ถล่ม บาร์เซโลนา 4-0 ชนิดช็อกแฟนบอลทั่วโลก รวมผล 2 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 4-3 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ รอพบทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หรือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่จะเตะคืนนี้


โดยย้อนไปดูสถิติในเกมนี้แม้ว่าลิเวอร์พูล จะครองบอล 42 เปอร์เซ็นต์ ส่วน บาร์เซโลนา ครองบอลมากกว่า 58 เปอร์เซ็นต์  ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิง 13 ครั้ง บาร์เซโลนา มีโอกาสยิง 8 ครั้ง โดยลิเวอร์พูล ยิงเข้ากรอบ 7 ครั้ง เป็น 4 ประตู ส่วน บาร์เซโลนา ยิงเข้ากรอบ 5 ประตู แต่ไม่เป็นประตู ขณะที่จังหวะเตะมุม ลิเวอร์พูล ทำได้ 7 ครั้ง และได้ประตูจากจังหวะเตะมุม 2 ครั้ง ส่วน บาร์เซโลนา เตะมุม 6 ครั้ง จังหวะทำฟาวล์ ลิเวอร์พูล 12 ครั้ง บาร์เซโลนา 9 ครั้ง ส่วนใบเหลือง ลิเวอร์พูล มี 2 ใบ บาร์เซโลนา 3 ใบ จังหวะเซฟประตู ลิเวอร์พูล เซฟได้ 5 ครั้ง บาร์เซโลนา เซฟ 3 ครั้ง

สำหรับ 4 ประตูในเกมนี้ลิเวอร์พูลได้จาก ดิว็อค โอริกี้  2 ประตู นาที 7 กับ นาที 79 และจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม 2 ประตู ในนาที นาที 54 และ 56

โดยเว็บไซต์ BBC สื่อดังของอังกฤษ ให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม เป็นแมนออฟเดอะแมตซ์ ในเกมนี้ 9.18 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 ส่วนเว็บไซต์ FotMob ฟุตบอล ให้ ดิว็อค โอริกี้ เป็นแมนออฟเดอะแมตซ์ 8.7 คะแนน

ส่วนของทีมบาร์เซโลนา ลีโอเนล เมสซี่  BBC ให้เพียงแค่ 4.91 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน มากที่สุด รองลงมาเป็นมาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเกิน ผู้รักษาประตู ได้ 4.69 คะแนน

ไปดูบรรยากาศในห้องแต่งตัวของลิเวอร์พูล หลังจบเกมกันบ้าง ซึ่งมีเพื่อนร่วมทีมได้เข้าไปดีใจกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมลิเวอร์พูลที่จ่ายลูกเตะมุมเร็วให้กับดิว็อค โอริกี้ ยิงเป็นประตูที่ 4 ในเกมนี้ถึงกับหัวเราะพร้อมกับจูบเสื้อโลโก้ลิเวอร์พูล  ขณะที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงของทีมที่เกมนี้ไม่มีชื่อเข้ามาแสดงความดีใจกับเพื่อนในห้องแต่งตัวด้วย รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขณะที่แดเนียล สเตอร์ริดจ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเดยัน ลอฟเรน ดีใจด้วยการร้องเพลงและเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน หลังทีมคัมแบ็คกลับมาชนะได้

หลังเกม เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ กองหลังของ ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่ากุญแจสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะในเกมนี้คือพวกเราเล่นกันเป็นทีม ช่วยกันป้องกันการโจมตีของบาร์ซ่าซึ่งเป็นเป็นทีมที่มีเกมบุกที่ยอดเยี่ยมได้ดี พร้อมกับชมเพื่อนร่วมทีมว่าเล่นภายใต้ความกดดันได้ดี ซึ่งอาจจะไม่มีใครเชื่อว่าหงส์แดงจะผ่านเอาชนะได้ แต่พวกเราเชื่อมั่นในเป้าหมายที่ตั้งไว้

ส่วน ดิว็อค โอริกี้ ที่ยิง 2 ประตูในเกมนี้ว่า เขาเชื่อว่าทีมจะสามารถทำได้แม้ว่าจะตามหลังในเกมแรกถึง 0-3 ด้วยความศรัทธาของนักเตะทุกคนรวมถึงแฟนบอลที่เชื่อมั่นพวกเราว่าเราจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ สุดท้ายพวกเราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราทำได้จริงๆ มันเป็นบรรยากาศที่สุดยอดสำหรับพวกเราทุกคนรวมถึงแฟนบอลด้วย

ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูล กล่าวว่า มันเป็นเกมที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดในชีวิต และเป็นเกมพิเศษสำหรับทุกคนจริงๆ มันเป็นเกมมหัศจรรย์ของพวกเราซึ่งพวกเราได้คุยกันว่าเราจะสู้ตั้งแต่วินาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย และพวกเราก็ทำสำเร็จ จากนี้ไปตั้งเป้าในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันที่ 12 พฤษภาคมในการลุ้นแชมป์  โดยพวกเราจะทำให้ดีที่สุด

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูล ได้แถลงหลังเกมว่า ก่อนเกมเขาได้พูดคุยกับนักเตะก่อนลงสนามว่าไม่มีสิ่งไหนที่พวกเราทำไม่ได้ พวกเรายังมีโอกาสในการต่อสู้ แม้ว่าเราจะขาดซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ ก็ตาม และไม่น่าเชื่อว่าทีมจะสามารถทำได้จริงๆ ต้องยอมรับว่าบาร์เซโลนา เป็นทีมที่แข็งแกร่งและเล่นได้ดี แต่นี้มันบ้าไปแล้วมันเป็นเกมที่ยิงใหญ่ของพวกเราพวกคุณสามารถได้ยินมันและรู้สึกได้ทั่วโลก ฉันดีใจมากที่เราสามารถมอบประสบการณ์นี้ให้กับผู้คน ผมมีความสุขมาก

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์เซโลนา กล่าวว่า เขาไม่รู้และประหลาดใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันเป็นปฏิกิริยาที่รวดเร็วจากลิเวอร์พูล เมื่อคุณมีการต่อสู้อย่างคืนนี้คุณจะต้องผ่านเกมที่ยากลำบาก จะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นกัน ยอมรับว่าเสียใจ และขอโทษแฟนบอลบาร์เซโลนาทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง

ด้าน โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมแมนฯ ยู ซึ่งรับบทคอมเมนเตเตอร์ ให้กับบีอินสปอร์ต กล่าวว่า ชัยชนะนัดนี้ของลิเวอร์พูล ไม่เกี่ยวกับกลยุทธ์ไม่ใช่เกี่ยวกับปรัชญา นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวใจและวิญญาณ และการเอาใจใส่ที่ยอดเยี่ยมที่คล็อปป์สร้างขึ้น เขาสร้างขึ้นกับกลุ่มผู้เล่น นี่คือภาพสะท้อนของบุคลิกภาพของเขาที่กล่าวว่า “อย่ายอมแพ้” แม้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

สำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่ 3 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลบอลถ้วยใหญ่ยุโรป ที่พลิกสถานการณ์เกมที่เป็นรองจากรอบรองชนะเลิศ 0-3 ก่อนมาชนะ 4-0 รวมผล 2 นัด ชนะ 4-3 เข้าไปชิงชนะเลิศได้ โดยสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ครั้งแรกมีขึ้นในฤดูกาล 1970-71 ที่ พานาธิไนกอส มีชัยเหนือ เร้ดสตาร์ เบลเกรด จากนั้นในฤดูกาล 1985-86 บาร์เซโลนา เล่นงาน โกเตนเบิร์ก

การเข้าชิงชนะเลิศครั้งนี้ทำให้ลิเวอร์พูล เป็นทีมจากอังกฤษเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุด 9 ครั้ง รวมทั้งยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และยูโรเปี้ยน คัพ อันดับ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชิงไป 5 ครั้ง และอันดับ 3 เป็น เชลซี กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เข้าชิงไปทีมละ 2 ครั้ง

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมอังกฤษทีมที่ 2 ที่ได้เข้าชิงชนะเลิศ 2 ปีติดต่อกัน ต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ในปี 2008-2009

ขณะที่คืนนี้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จะเปิดบ้านพบกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในเกมนัดที่ 2 หลังจากนัดแรก อาแจ็กซ์ บุกไปชนะ สเปอร์ส มาได้ก่อน 1-0 เกมนี้ เอริค เทน ฮาก กุนซืออาแจ็กซ์ จะไม่มีปัญหาการจัดทัพตัวผู้เล่นหลักๆ พร้อมลงสนามรวมทั้ง โยเอล เฟลท์มัน, ลาสเซ่ เชิน และ ดาวิด เนเรส กลับมาลงสนามหลังจากได้พักเกมในลีก เกมนี้เทน ฮาก จะใช้ระบบ 4-2-3-1 วาง ดูซาน ทาดิช ยืนหน้าเป้า

ด้าน เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จะได้ ซอน เฮือน มิน แนวรุกตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาเสริม ส่วน แยน แฟร์ต็องเก้น ที่มีอาการกระทบกระเทือนที่ศีรษะจากนัดแรก ต้องรอทดสอบความฟิต ส่วนคนอื่นๆ พร้อมลงสนาม เกมนี้โปเชตติโน จะใช้ระบบ 4-3-1-2 วาง ลูคัส มูร่า คู่กับ ซอน เฮือน มิน ยืนเป็นหน้าคู่

คืนนี้ 02.00 น. ต้องลุ้นดูว่าทีมสเปอร์สจะพลิกสถานการณ์ที่เป็นรองกลับมาชนะเพื่อเข้าไปชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูล ที่รออยู่ หรืออาแจ็กซ์ จะย้ำแค้นสเปอร์ส .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย