คมนาคมเตรียมแผนรองรับคลื่นมหาชนร่วมงานพระราชพิธีฯ

ก.คมนาคม 2 พ.ค. – คมนาคมเตรียมระบบขนส่งมวลชน “บก-น้ำ-ราง-มอไซค์-แท็กซี่” ฟรีรองรับประชาชนเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4-6 พฤษภาคมนี้ คาดมีประชาชนเข้าร่วมพิธีไม่น้อยกว่า 2 แสนคน/วัน


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชนที่เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกวันที่ 4-6 พฤษภาคมนี้  ว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมระบบการคมนาคมขนส่งทางบก ทั้งระบบขนส่งทางบก ระบบราง ทางน้ำ รวมถึงการขนส่งมวลชนอื่น ๆ เพื่อเตรียมรับประชาชนจากจุดรวมพล 7 จุด ที่รถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชกรุงเทพ (ขสมก.) มาจอดรับส่งทั้งการบริการรถชัทเตอร์บัสจากจุรวมพลไปยังกรุงเทพฯ ชั้นใน และรถเมล์เฉพาะกิจที่จอดรับทุกสถานี นอกจากนี้ ยังบริการที่จอดรถกว่า 27 จุด รอบกรุงเทพฯ เช่น เมืองทองธานี สามารถรองรับได้กว่า5,000 คัน โดยคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้าออกพื้นที่งานพระราชพิธีไม่น้อยกว่า 200,000 คน/วัน

ส่วนการรักษาความปลอดภัยในการให้บริการคมนาคมขนส่งทุกประเภททั้งภายในสถานีและภายนอกสถานี ทั้งของสนามบิน, สถานีขนส่งผู้โดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) สถานีรถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น ทุกหน่วยงานจะดำเนินการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด


ขสมก.จัดรถ 17 เส้นทางวนรับประชาชนขึ้นฟรี


นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมในฐานะผู้แทนกระทรวงคมนาคม ในคณะกรรมการกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 (กอร.พระราชพิธี) กล่าวว่า ในส่วนของ ขสมก.จะให้บริการรถชัทเตอร์บัส 11 เส้นทาง และรถเฉพาะกิจ 6 เส้นทาง รวมเป็น 17 เส้นทาง โดยรถชัทเตอร์บัส  11 เส้นทาง จะให้บริการระหว่าง 2 – 6 พฤษภาคม และวันที่ 1-4 พฤษภาคม และวันที่ 7 พฤษภาคมให้บริการเฉพาะกิจ 6 เส้นทาง ส่วนวันที่ 5 พฤษภาคม จะให้บริการเฉพาะรถปรับอากาศ 209 คัน


สำหรับรถชัทเตอร์บัส 11 เส้นทาง ประกอบด้วย เมืองทองธานี – สนามม้านางเลิ้ง (ทางด่วน), สโมสรตำรวจ ม.เกษตรศาสตร์ – สนามม้านางเลิ้ง (ทางด่วน) , สโมสรกองทัพบก กทม.2 – สนามม้านางเลิ้ง (ทางด่วน) , ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต – สนามม้านางเลิ้ง (ทางด่วน) , ที่จอดรถไฟฟ้า รฟม. รัชดาภิเษก ศาลอาญา อัยการสูงสุด – บ้านมนังคศิลา (ทางด่วน), อิเกีย เมกะ ไบเทค บางนา – บ้านมนังคศิลา (ทางด่วน) ,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง – บ้านมนังคศิลา (ทางด่วน), ท่าเรือคลองเตย โรงงานยาสูบ แอร์พอร์ตลิ้งค์มักกะสัน – บ้านมนังคศิลา (ทางด่วน), เซ็นทรัลพระราม 2 โรงเรียนบางมดวิทยา – วัดเทพศิรินทร์ (ทางด่วน), พุทธมณฑลสาย 4 เซ็นทรัลศาลายา อู่รถบรมราชชนนี วิทยาลัยทองสุข – เชิงสะพานพระราม 8 และเซ็นทรัลเวสเกต – เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า

ส่วนรถเฉพาะกิจรับ – ส่งทุกป้าย 6 เส้นทาง ระหว่างวันที่ 1 – 7 พฤษภาคม ประกอบด้วย 1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามม้านางเลิ้ง 2. สถานีขนส่งจตุจักร – สนามม้านางเลิ้ง 3. วงเวียนใหญ่ – สะพานพระพุทธยอดฟ้า 4. สนามศุภชลาศัย – บ้านมนังคศิลา 5. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 6. หัวลำโพง – บ้านมนังคศิลา  ส่วนรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รถ บขส.ได้ลดค่าตั๋วโดยสาร 10% ให้กับประชาชนที่จองตั๋วเดินทาง ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 กันยายน 2562 ทุกเส้นทาง ยกเว้นรถชานเมืองที่วิ่งระยะทางไม่เกิน 100 กม.

เรือข้ามฟาก-เรือด่วน-แสนแสบฟรี


นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในส่วนกรมเจ้าท่าได้จัดเรือด่วนเจ้าพระยา เรือข้ามฟากและเรือคลองแสนแสบให้บริการฟรี ระหว่างวันที่ 4–6 พฤษภาคม โดยเรือด่วนเจ้าพระยาให้บริการฟรีจากท่าเรือนนทบุรี ถึงท่าเรือปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร 10 เที่ยว (เรือออกทุก 1 ชม.) ได้แก่ เช้า 5 เที่ยวตั้งแต่ เวลา09.00 น. -18.00น.และ จากท่าเรือสาทร-ท่าเรือสะพานพุทธ  4 เที่ยว แบ่งเป็น เช้า 2 เที่ยว เวลา 10.00 น. 11.00 น. และเย็น 2 เที่ยว เวลา 15.00 น. และ 16.00 น.

ขณะที่เรือข้ามฟากของกรมเจ้าท่าให้บริการฟรี ระหว่าง  4–6 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. จากท่าเรือพระราม 8 ฝั่งธนบุรี มาท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร ออกทุก 20 นาที, ท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งธนบุรี มา  ท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร ออกทุก 15 นาที, ท่าเรือรถไฟ มาท่าเรือพระจันทร์ใต้ ออกทุก 15 นาที ส่วนเรือข้ามฟากของเอกชนให้บริการตามปกติ

ส่วนเรือโดยสารคลองแสนแสบจะเปิดให้บริการฟรี  ระหว่าง 4-6 พฤษภาคม โดยวันที่ 4 พฤษภาคม ขาไป จากท่าเรือประตูน้ำไปท่าเรือผ่าฟ้าลีลาศ เที่ยวแรกเวลา 07.00น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 19.00น. ส่วนขากลับจากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศไปท่าเรือประตูน้ำ เที่ยวสุดท้ายเวลา 19.15น., วันที่ 5 พฤษภาคม  ขาไป เที่ยวแรกออกจากท่าเรือประตูน้ำเวลา 07.00 น. ส่งแค่ท่าเรือโบ้เบ้ ถึงเวลา 11.45น. จากนั้นส่งถึงท่าผ่าฟ้าลีลาศ 22.00น. และเที่ยวสุดท้ายออกจาก ท่าผ่าฟ้าลีลาศ เวลา 22.00 น. และวันที่ 6 พฤษภาคม ขาไป จะมีเรือเที่ยวแรกออกจากท่าเรือประตูน้ำเวลา 07.00 น. เที่ยวสุดท้าย19.45 น. ส่วนขากลับเที่ยวสุดท้ายจากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาสไปท่าเรือปะตูน้ำเวลา 20.00 น.     

รถไฟเปิดฟรีชั้น 3


นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนการให้บริการรถไฟของ รฟท.ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม ให้บริการรถไฟชั้น 3 ฟรี ทุกเส้นทางที่มีสถานีต้นทางและปลายทางที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ,สถานีรถไฟธนบุรี และสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ พร้อมจัดรถไฟขบวนพิเศษให้บริการฟรีทั้งสายสั้นและสายยาว แบ่งเป็น รถไฟสายสั้น 4 เส้นทาง ได้แก่ สายเหนือ เส้นทางพระนครศรีอยุธยา – กรุงเทพฯ -พระนครศรีอยุธยา, สายใต้ เส้นทางนครปฐม – ธนบุรี –นครปฐม สายตะวันออก เส้นทางฉะเชิงเทรา – กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา และสายแม่กลอง  เส้นทางมหาชัย–วงเวียนใหญ่ –มหาชัย และรถไฟสายยาว 6 เส้นทาง ได้แก่ สายเหนือ เส้นทางเชียงใหม่ – ลำพูน – กรุงเทพฯ และเส้นทางลำปาง – เด่นชัย – อุตรดิตถ์ – กรุงเทพฯ สายใต้ เส้นทางสุราษฎร์ธานี – ชุมพร – กรุงเทพฯ และเส้นทางหนองคาย – อุดรธานี – ขอนแก่น – กรุงเทพฯ และสายตะวันออก เฉียงเหนือ เส้นทาง อุบลราชธานี – ศรีสะเกษ – สุรินทร์ – กรุงเทพฯ และเส้นทางสุรินทร์ – บุรีรัมย์ – นครราชสีมา – กรุงเทพฯ

ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน-แอร์พอร์ตลิ้งฟรี


นายวิทยา กล่าวว่า ส่วนรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีม่วง (เตาปูน-บางใหญ่) และสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางซื่อ) จะให้บริการฟรี ตลอดทั้งวัน วันที่ 5-6 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. และหากมีผู้โดยสารตกค้างก็จะให้บริการจนหมด ทั้งนี้ รฟม.ยังให้บริการพื้นที่จอดรถฟรี รวม 2,873 คัน แบ่งเป็นอาคารจอดรถ สถานีลาดพร้าว 2,200 คัน  อาคารจอดรถ สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 205 คัน  ลานจอดรถ สถานีรัชดาภิเษก 75 คัน  ลานจอดรถ สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ทางเข้า-ออก 1) 30 คัน ลานจอดรถ สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ตั้งอยู่ปากซอยรัชดาภิเษก 6) 106 คัน  ลานจอดรถ สถานีพระราม 9 (รัชดาภิเษก ซอย 2) 50 คัน ลานจอดรถ สถานีเพชรบุรี 54 คัน ลานจอดรถ สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 79 คัน  ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 42 คัน  ลานจอดรถสถานีสามย่าน 32 คัน

สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์จัดให้บริการฟรีตลอดเส้นทาง (สุวรรณภูมิ – พญาไท) วันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 06.00 – 24.00 น. พร้อมให้บริการพื้นที่จอดรถฟรี บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน 

บริการแท็กซี่-มอเตอร์ไซค์จิตอาสารับฟรี 5 พ.ค.


นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก  กล่าวว่า ได้จัดรถบัสรับ – ส่งประชาชนฟรี 1,091 คัน เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมพิธี 50,000 คน ภายใต้การบริหารจัดการของกระทรวงมหาดไทยจากภูมิภาคต่าง ๆ แบ่งเป็นรับประชาชนจากภาคเหนือ 32 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 151 คัน ภาคกลาง 485 คัน ภาคตะวันออก 168 คัน ภาคตะวันตก 119 คัน และภาคใต้ 136 คัน โดยที่มาจากภูมิภาคต่างจะจอดส่งจุดที่กำหนด ภาคเหนือ ส่งที่เมืองทองธานี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งที่สนามกีฬาธูปเตมีย์, ภาคกลาง ส่งที่สนามม้านางเลิ้ง และสะพานพระราม 8, ภาคตะวันออก ส่งที่บ้านมนังคศิลา,  ภาคตะวันตก ส่งที่ปิ่นเกล้า ส่วนภาคใต้ ส่งที่สะพานพุทธ

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังจัดบริการรถแท็กซี่จิตอาสา 200 คัน และจักรยานยนต์รับจ้างจิตอาสา 200 คัน รับประชาชนออกจากบริเวณงานมาส่งเฉพาะ 7 จุด เชื่อมต่อขนส่งมวลชนฟรีวันที่ 5 พฤษภาคม   และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า ระหว่าง 3 – 7 พฤษภาคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย