ร้อน แล้ง กระทบเงินเฟ้อเดือนเมษายนพุ่ง

กทม. 1 พ.ค.- ร้อน แล้ง กระทบเงินเฟ้อเดือนเมษายน พุ่งสูงกว่าปีก่อน ร้อยละ 1.23 ส่วนการท่องเที่ยวไตรมาสแรกยังมาแรง ยอดใช้น้ำมันโตร่วม 2%


วันนี้แม้เป็นวันหยุดของภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากวันแรงงานแห่งชาติ แต่หน่วยงานราชการทำงานตามปกติ และวันนี้กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเมษายน พบว่า สูงขึ้นร้อยละ 1.23 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่แล้ว ปัจจัยสำคัญคือการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจองราคาอาหารสด ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนแห้งแล้งและมีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา กระทบต่อผลผลิตสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น มะนาว ราคาไม่ต่ำกว่า 7 บาท/ผล ราคาเนื้อสุกรก็ปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็มีการร่วมกันดูแลราคาไม่ให้เกิน 150 บาท/กก. ผักสดอื่นๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้น พริกสด ต้นหอม ถั่วฝักยาว เป็นต้น ส่งผลให้ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูปมีราคาแพงขึ้นด้วย ในขณะที่ราคาน้ำมันก็แพงขึ้นตามปัจจัยตลาดโลกไม่ว่าจะเป็นการคุมกำลังผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส การที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน เวเนซุเอลา ส่วนค่าโดยสารที่มีการปรับขึ้นไปแล้วนั้นกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเงินเฟ้อในเดือนถัดไปมากนัก และกระทรวงพาณิชย์ยังไม่ปรับอัตราคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี แม้หลายหน่วยงาน เช่นกระทรวงการคลังจะมีการปรับเป้าเงินเฟ้อแล้วก็ตาม โดยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 0.7 – 1.7 มีค่ากลางอยู่ที่ ร้อยละ 1.2 บนพื้นฐานจีดีพีขยายตัว ร้อยละ 3.5 – 4.5 


ส่วนการใช้น้ำมัน ไตรมาสแรกของประเทศ เปิดเผยโดยกรมธุรกิจพลังงานพบว่ายอดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์โตขึ้นร้อยละ 1.8 เป็นการเพิ่มขึ้นของกลุ่มน้ำมันเบนซินถึงร้อยละ 3.21 กลุ่มน้ำมันอากาศยานร้อยละ 2.23 กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ร้อยละ 1.68  และแอลพีจี ร้อยละ 1.58 ส่งผลให้ไทยมีการนำเข้า เฉลี่ย 993,182 บาร์เรลต่อวัน มูลค่าการนำเข้ารวม 184,915 ล้านบาท ปริมาณนำเข้าโตขึ้นร้อยละ 1.4% แต่มูลค่าการนำเข้าลดลง 5,437 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 เนื่องจากได้รับอานิสงส์ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยการใช้น้ำมันไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยหลักได้แก่ การท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรทำให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยรวมปรับเพิ่ม สำหรับยอดขายน้ำมันพบว่า ปตท.ยังคงเป็นแชมป์อันดับหนึ่ง ตามมาด้วยเอสโซ่ บางจาก เชลล์ และเชฟรอนหรือคาลเท็กซ์ 


อีกหนึ่งเรื่องหากจำกันได้กลางปีที่แล้ว ครม. มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยกำหนดให้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 58 ชนิด เช่น ไม้ปีบ ไม้สกุลมะม่วง ไม้ทุเรียน ไม้สัก ไม้มะหาด เป็นต้น  มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการประกอบธุรกิจมากขึ้น แต่ความเชื่อมั่นของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้ ก็เรียกได้ว่าจะปล่อยอย่างไร หลักประกันทำอย่างไร โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย

 

เมื่อวานนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็พานายธนาคารลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ไปดูไม้โตเร็ว ที่ภาคเอกชนส่งเสริมเกษตรกรปลูกยูคาลิปตัส แล้วเอกชนนำไปแปรรูปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำกระดาษ ทำกล่อง ทำแพ็กเกจจิ้งต่างๆ  โดยหวังว่า เมื่อนายแบงก์มีความเข้าใจแล้ว ก็จะสามารถทำหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้ต่อเกษตรกรเพื่อเสริมสภาพคล่องได้ ในช่วงระหว่างรอไม้ให้เติบโต เพราะกว่าจะปลูกยูคาลิปตัสแล้วส่งโรงงานได้ ต้องใช้เวลา 3-5 ปี ซึ่งพบว่าเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกยูคาลิปตัสต่างเห็นว่าโครงการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันจะได้มีประโยนช์มาก โดยหากปลูก 5-10 ไร่ ก็ต้องการเงินกู้ 50,000-100,000 บาท จึงอยากให้สถาบันการเงินช่วยมาสนับสนุน โดยขณะนี้ตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการไม้ยูคาลิปตัสสูง เช่น จีนและญี่ปุ่น โดยเฉพาะไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC การรับรองมาตรฐานป่าไม้ที่มุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน ราคาขายไม้ยูคาฯปรับตัวจาก 130 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 145 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ บสย. ก็พร้อมสนับสนุนในเรื่องการค้ำประกันด้วย โดยที่ผ่ายมาเกษตรกรรายใหญ่ได้รับการอุดหนุนสินเชื่อบ้างแล้ว แต่รายย่อยยังไม่ได้รับการสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง