พิษณุโลก 30 เม.ย.-ชายพิการชาวพรหมพิราม โยกวีลแชร์จากพิษณุโลก เข้ากรุงเทพฯ ระยะทางเกือบ 400 กม. เพื่อเข้าร่วมเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
นายคำพา แก้วจีน ชายพิการวัย 53 ปี ได้โยกวีลแชร์จากบ้านเกิดที่หมู่ 7 ต.วังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อเข้ากรุงเทพมหานคร ด้วยระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค. 2562 และได้แวะที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทำบัตรคนพิการที่ชำรุดที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ก่อนที่จะโยกวีลแชร์คู่ใจเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร มีประชาชนให้กำลังใจ นายคำพา ตลอดระยะทาง พร้อมมอบเงินเพื่อเป็นค่าซื้อเสบียงอาหาร และน้ำดื่มในการเดินทาง
ด้านหน้ารถวีลแชร์ได้ติดพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พานพุ่มทอง พานพุ่มเงิน โดยมีเสบียงอาหารและน้ำดื่ม แบตเตอรี่เพื่อให้แสงสว่างไฟหน้าและไฟท้ายรถวีลแชร์ ขณะเดียวกันก็มีวิทยุคู่ใจไปด้วย นายคำพา บอกว่า เพื่อเปิดฟังข่าวระหว่างเดิน โดยใช้เส้นทางสายพิษณุโลก-นครสวรรค์
นายคำพา แก้วจีน กล่าวว่า ตนเองเป็นคนพิการ เนื่องจากป่วยเป็นโรคโปลิโอ ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ แต่พอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ที่มุ่งมั่นและตั้งใจโยกรถวีลแชร์เข้ากรุงเทพมหานครในครั้งนี้ เพื่อชื่นชมพระบารมีและถวายพระพรในหลวง รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.นี้ และที่ผ่านมา ก็ได้โยกวีลแชร์คู่ใจคันนี้ไปถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมรับเสื้อ Bike for mom และเข็มกลัดพระราชทาน ที่สโมสรกองทัพบก กรุงเทพมหานคร มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ตนเองได้มีโอกาสได้เข้าร่วมฝึกอาชีพคนพิการ ที่ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ อ.ชัยบาดาล ซึ่งศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ อยู่ในโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ตนเองได้กิน ได้เรียน ได้มีความรู้ติดตัวจนสามารถมีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวมาได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพราะความห่วงใยจากพระองค์ท่าน รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และตั้งใจที่จะเป็นพสกนิกรที่ดีของพระองค์ โดยได้เป็นจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ซึ่งเป็นโครงการของในหลวง รัชกาลที่ 10 ที่ทรงให้พสกนิกรของพระองค์มีความรักสามัคคีกัน อุทิศและเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม โดยปัจจุบันตนเองเป็นครูอาสาสอนเด็กนักเรียนเย็บ ซ่อมรองเท้า เพื่อให้เด็กได้มีความรู้ และบริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่เพื่อให้นิสิต นักศึกษาแพทย์ได้นำร่างกายของตนไปเป็นตำราเรียน อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย