รัฐบาลเชิญชวนประชาชนเข้าเฝ้าฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ทำเนียบฯ 29 เม.ย.- รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562


นางพัชราภรณ์  อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2562 เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศและทั่วโลก มีหมายกำหนดการดังนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ นายกรัฐมนตรีและผู้เฝ้าฯ ทุกคน ถวายความเคารพพร้อมกัน 1ครั้ง 


นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลในนามพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก จบแล้ว ทหารกองเกียรติยศ ๓ เหล่าทัพ ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบนายกรัฐมนตรีและผู้เฝ้าฯ ทุกคน ถวายความเคารพพร้อมกัน 1ครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบพระราชดำรัส ทหารกองเกียรติยศ  3 เหล่าทัพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ นายกรัฐมนตรีและผู้เฝ้าฯ ทุกคนถวายความเคารพพร้อมกัน 1ครั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวนำ “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” โดยผู้เฝ้าฯ ทุกคนจะเปล่งเสียง“ทรงพระเจริญ” โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้กึกก้องไปทั้งแผ่นดิน ในเวลา 15.00 น. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มารอเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลมาพร้อมกันบริเวณถนนสนามไชย ซักซ้อมขั้นตอนและพิธีการต่าง ๆ เพื่อให้การถวายพระพรชัยมงคลครั้งนี้เป็นไปด้วยความงดงาม ประทับใจ และร่วมสร้างประวัติศาสตร์ของชาติไทยในครั้งนี้  หลังจากจบการถวายพระพรชัยมงคลแล้ว ในเวลาประมาณ 17.00 น. ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมส่งเสด็จฯ ให้เนืองแน่นตลอดสองข้างทางที่เสด็จฯ ผ่าน เริ่มตั้งแต่ถนนหน้าพระลาน ถนนราชดำเนินใน ทั้งฝั่งพระบรมมหาราชวัง ฝั่งสนามหลวง และฝั่งศาลฎีกา นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดทำซุ้มตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกขนาดใหญ่ พร้อมตกแต่งดอกไม้สวยงาม ณ ท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนได้ถ่ายภาพหรือเช็คอินเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสมาร่วมในงานสำคัญของชาติไทย 

ต่อจากนั้นในเวลาประมาณ 19.00 น. จะมีการแสดงอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) แปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ Light & Sound เฉลิมพระเกียรติฯ แทนการจุดพลุ โดยจะมีการซ้อมใหญ่เสมือนจริงในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 ภายหลังพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราทางสถลมารค ณ ท้องสนามหลวง จึงขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมชมการแสดงอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) แปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ Light & Sound เฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งการแสดงครั้งนี้เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นและประดิษฐ์โดยฝีมือคนไทยเป็นครั้งแรกในการเขียนโปรแกรมควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ให้บินอยู่ ในอากาศได้ทีละหลาย ๆ ลำ และยังจะไปจัดแสดงในส่วนภูมิภาคเนื่องในวันสำคัญต่าง ๆ อีก 8 ครั้ง


รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนับแสนคน จึงได้มีบัญชาให้หน่วยงานภาครัฐ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนทั้งในเรื่องความปลอดภัย การจราจร การแพทย์พยาบาล อาหาร น้ำดื่ม และห้องสุขา ให้ดีที่สุดและเพียงพอต่อความต้องการ มีการจัดรถประจำ ทางเรือโดยสาร รถไฟ ให้บริการฟรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดทำเข็มกลัดที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พิมพ์ข้อความ “เสด็จออกสีหบัญชร 6 พฤษภาคม 2562” จำนวน 100,000 เข็ม 

การประปานครหลวงจัดทำกระบอกน้ำพลาสติกชนิดพกพาประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก จำนวน 300,000 ใบ เพื่อมอบให้แก่ประชาชนที่มาร่วมเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ จุดคัดกรองที่ตั้งไว้ 6 จุด ในบริเวณต่าง ๆ คือ ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า พระแม่ธรณีบีบมวยผม ท่าช้าง สะพานช้างโรงสี สะพานมอญ และสะพานเจริญรัช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดเตรียมกล้าไม้มงคล และไม้มีค่าของแผ่นดินนานาพรรณ รวมทั้งต้นรวงผึ้ง มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อร่วมกันทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่ประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริ 

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชน ทรงมีพระราโชบายให้ดูแลประชาชนอย่างดีเสมือนเป็นแขกของพระองค์ท่าน ทรงให้หน่วยราชการในพระองค์ 904 จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม2562 ณ ท้องสนามหลวง และจุดต่าง ๆ โดยรอบ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับมอบหมายให้จัดอาหารพระราชทาน จำนวน 80,000 ชุด แจกจ่ายประชาชนในบริเวณสวนสราญรมย์ ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2562

ประชาชนสามารถนำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นส่วนตัวมาได้ เช่น ยา แว่นตากันแดด หมวก (ยกเว้นสีดำ) ฯลฯ เมื่อเข้ามายังพื้นที่จัดงานแล้วสามารถเลือกพื้นที่เฝ้าฯ ได้ตามความประสงค์ โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในทุกพื้นที่การจัดงาน สำหรับประชาชนที่มาร่วมเฝ้าฯ แต่อาจจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล สามารถชื่นชมพระบารมีผ่านจอ LCD ขนาดใหญ่จำนวนหลายสิบจอ ซึ่งจะติดตั้งตลอดแนวถนนสนามไชยไปจนถึงท้องสนามหลวง

เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความร่วมแรงร่วมใจกันทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงขอเชิญชวนหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารภาคเอกชน ที่มีความประสงค์จะมอบสิ่งของเพื่อดูแลประชาชนที่มาร่วมเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลครั้งนี้ เช่น หมวกแก๊ป ผ้าเย็น ถุงผ้าใส่ของ ลูกอม ยาดม น้ำดื่มขนาดพกพา น้ำหวาน พัด พัดลมมือถือ เป็นต้น สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ หมายเลขโทรศัพท์022834713 และ02 2834704  ทุกวันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปในเวลาราชการ

และท้ายที่สุดนี้ ขอเชิญชวนประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองเข้าร่วมเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีสำคัญและร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทยโดยพร้อมเพรียงกัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]