กกต. 25 เม.ย.- กกต.เดินหน้าคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เอง หลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย พร้อมรวบรวมทุกสูตรที่มีผู้เสนอ ยึดสูตร กรธ.ใช้อำนาจตามคำวินิจฉัยศาลคำนวณ แล้วประกาศ ส.ส.ให้ได้ในวันที่ 9 พ.ค.
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต. วันนี้ (25 เม.ย.) ว่า ที่ประชุม กกต. รับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไม่รับคำร้องของ กกต.เรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กกต.จึงจะต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ภายหลังการประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว โดยจะคำนึงถึงวิธีการตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 ที่สำนักงาน กกต. เสนอให้ กกต.พิจารณา หรือวิธีการคำนวณอื่นๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแบบครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด
นายแสวง กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงาน กกต. การคำนวณตามแบบของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของ กกต. เพราะวิธีการนี้ได้เสนอมาตลอด 2 ปี ไม่เคยมีการโต้แย้ง รวมทั้ง ได้มีการเผยแพร่ พรรคการเมืองที่ได้ติดตาม ก็น่าจะทราบสูตรอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีผลคะแนนการเลือกตั้งออกมา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กกต.ให้สำนักงานไปศึกษาวิธีการคำนวณของนักวิชาการ และพรรคการเมืองด้วย และนำมาเสนอ กกต.
“กรอบเวลาเรื่องนี้คงต้องดำเนินการโดยเร็ว เพราะถึงอย่างไรวันที่ 9 พฤษภาคม กกต. ต้องประกาศ ส.ส.ทั้ง 2 ระบบไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 และเมื่อ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว มีผู้ที่เห็นว่าการคำนวณจัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถูกต้องก็มีสิทธิไปร้องต่อศาลได้” นายแสวง กล่าว
นายแสวง ยังกล่าวถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต. มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม หลังวันเลือกตั้งได้หรือไม่ หรือทำไมไม่ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นในวันรับสมัครเลือกตั้งในคราวเดียว นายแสวง กล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติ วันสมัครรับเลือกตั้ง กกต.สามารถตรวจสอบได้ เพราะมีเอกสารรับรองหรืออ้างอิงทุกรายการ ส่วนลักษณะต้องห้าม กกต.จะตรวจสอบได้เพียงจากข้อมูลของหน่วยรัฐ ซึ่งมี 23 หน่วยงาน กกต.ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของเอกชนได้ จึงต้องให้ผู้สมัครรับรองตัวเอง
นายแสวง กล่าวว่า หากภายหลังปรากฏว่า เป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม เป็นเหตุฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง กกต. มีอำนาจดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือวันประกาศผลการเลือกตั้ง กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นกรณีที่มีผู้ร้องว่าอาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้สิ้นกระแสข่าว .- สำนักข่าวไทย