ขอนแก่น 23 เม.ย.- ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจสอบอาคารโรงเรียนหลังผนังปูนหล่นทับเด็กหญิง 4 ขวบเสียชีวิต เบื้องต้นพบมีการก่อสร้างผิดแบบ สั่งปิดเรียนชั่วคราว
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เข้าตรวจสอบอาคารภายในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น หลังจากเย็นวานนี้ ได้เกิดพายุฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง เป็นเหตุให้ผนังปูนชั้น 3 ของอาคาร พังล่วงหล่นลงมาทับศีรษะของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นนักเรียนอนุบาลเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้เป็นพ่อของเด็กซึ่งเดินเข้าไปรับลูกได้รับบาดเจ็บ โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้มีผู้บริหารของโรงเรียน พาเจ้าหน้าที่เข้าดูภายในอาคารซึ่งพบว่า ยังมีชิ้นส่วนของผนังปูนที่หล่นลงมาตกอยู่เต็มพื้นห้องโถง ขณะที่ผนังปูนบนชั้น 3 จุดที่ผนังปูนล่วงหล่น ห่างจากพื้นประมาณ 8 เมตร ยังคงมีแผ่นผนังปูนที่อยู่ในสภาพชำรุดและหน้าต่างที่ได้รับความเสียหายติดอยู่ด้านบน เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงเหล็กกันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยหลังตรวจสอบว่า อาคารดังกล่าวมีการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบ โดยจุดที่ผนังปูนล่วงหล่นลงมานั้น ตามแบบแปลนแล้วจะเป็นผนังทึบทั้งหมด แต่การก่อสร้างจริงมีการติดตั้งกระจกเข้าไป ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จะเข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างอาคารทั้งหมดอย่างละเอียด และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายอาจจะเกิดขึ้น ได้ประสานให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ออกคำสั่งให้โรงเรียนนี้งดการเรียนการสอนไปก่อน พร้อมกับกันเป็นพื้นที่อันตราย และห้ามใช้อาคาร พร้อมกับให้โรงเรียนทุกแห่ง ตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ด้านธัญวลัย พรรณะ ผู้ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างโรงเรียน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาครูอาจารย์ทุกคนดูแลเด็กนักเรียนเป็นอย่างดี เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกกรณี พร้อมขอโทษกับทุกคน ในส่วนของการก่อสร้างอาคารนั้น ทางโรงเรียนยืนยันว่า ได้ก่อสร้างตามแบบทุกอย่าง
ด้านคดีความพันตำรวจเอกประวิทย์ โทหา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เปิดเผยว่า เชิญผู้บริหารโรงเรียนเข้ามาสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ทั้งนี้จะต้องทำการสอบสวนในอีกหลายประเด็น อาทิ มีการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ การเขียนแบบ ออกแบบอาคารเป็นไปตามหลักวิศกรรมสถานหรือไม่
สำหรับโรงเรียนที่เกิดเหตุ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2556 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดสอนเมื่อปี 2557 มีอาคารหลังเดียว สูง 3 ชั้น มีครูและบุคลากรประมาณ 40 คน เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รวมจำนวนนักเรียนเกือบ 400 คน.-สำนักข่าวไทย