ปชป.หวั่นเศรษฐกิจกระจุกตัว รัฐทุ่มเงินกระตุ้นเที่ยวเมืองรอง

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-“สรรเสริญ” หวั่นรัฐบาลทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาท กระตุ้นเที่ยวเมืองรองกระจุก ซ้ำรอยบัตรประชารัฐ แนะแจกเงินสด ชี้รัฐบาล “อภิสิทธิ์”แจกเช็ค ช่วยชาติเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เหน็บรัฐบาลไม่มีวิกฤติกลับกระตุ้นเศรษฐกิจตลอด


นายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะกระตุ้นการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดเมืองรองโดยการแจกเงิน  1,500 บาทต่อคน รวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท  ว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องคำนึงผลลัพธ์ที่ให้ประโยชน์สูงสุด ต้องดูวิธีการกระจายเงิน ซึ่งในขณะนี้มีการกำหนดเงื่อนไขต้องใช้คิวอาร์โค้ดตามร้านค้าต่าง ๆ ดังนั้นต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนก่อนว่าจำนวนร้านที่จะรับเงินดังกล่าวมีมากน้อยแค่ไหน สามารถที่จะกระจายเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ หรือจะกลายเป็นการกระจุกตัว ตนเห็นว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผลดีที่สุดคือการให้เงินสด ไปใช้จ่ายได้กับทุกร้าน รวมถึงร้านที่ไม่มีคิวอาร์โค้ดด้วย แต่ก็จะมีปัญหาว่าเงินที่ถูกใช้จะใช้ไปกับ 55 จังหวัดหรือไม่ เพราะอาจจะไม่มีตัวชี้วัด

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ในขณะที่เป็นระยะเวลาที่สั้นมาก เพราะจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายใน 2 สัปดาห์ จึงไม่มั่นใจว่าร้านที่มีคิวอาร์โค้ดจะมีจำนวนเท่าไหร่ ถ้ามีไม่มากก็จะกระจุกตัวอยู่ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ และรายสะดวกซื้อรายใหญ่ ซึ่งร้านพวกนี้คงเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ร้านค้าทั่วไปจะมีสักกี่ร้านที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้นเงินจำนวน 15,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในครั้งนี้อาจไม่ได้ประโยชน์สูงสุด 


นายสรรเสริญ กล่าวว่า ยังมีประเด็นที่น่าคิดด้วยว่าเงื่อนไขที่กำหนดให้คนที่อายุ 15 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ที่จะได้เงินส่วนนี้ โดยวางเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 10 ล้านคนอาจจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่าที่กำหนดไว้ เพราะมีเงื่อนไขที่กว้างมาก และรัฐอาจจะต้องใช้เงินมากกว่าที่คิด แต่สุดท้ายแล้วหากมีร้านค้าจำนวนไม่มาก การกระจายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะถูกตั้งคำถามว่าได้ประโยชน์อย่างที่วางเป้าหมายไว้หรือไม่

“สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จ่ายเช็คช่วยชาติจำนวน  2,000 บาท เพราะประสบกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งต้องทำกะทันหัน ต่างจากปัจจุบันที่ไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรง แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันบริหารประเทศมา 5 ปีแล้ว แต่กลับกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดเวลา จึงอยากให้ทบทวนวิธีการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมาว่าทำไมจึงไม่ได้ผลแล้วนำมาปรับ เช่นเรื่องบัตรประชารัฐ การประเมินผลกระทบสงครามทางการค้ามีตรงไหนต้องทบทวนใหม่”นายสรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก