นายกฯ ไทย-กัมพูชา ร่วมพิธีฉลองการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา

สระแก้ว 22 เม.ย.-  นายกฯ ไทย-กัมพูชา ร่วมในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท)  นายกฯ ไทย ระบุ สะพานนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และเป็นรูปธรรมมากที่สุดของทั้ง 2 ประเท ขณะที่ นายกฯ กัมพูชา เห็นว่าเป็นสะพานเชื่อมใจของชาวบันเตียเมียนเจยและสระแก้ว ที่สมควรบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 เม.ย.)  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี  ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเป็นประธานร่วมในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) ณ จุดกึ่งกลางสะพานฯ   กับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา  

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีในความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา ว่า สะพานข้ามแดนแห่งนี้ถือเป็นสะพานแห่งแรก ที่มีความยาวที่สุดเชื่อม 2 ประเทศ แสดงถึงสายสัมพันธ์อันดียิ่งของประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน


“ผมหวังว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการให้สะพานแห่งนี้ สามารถเปิดใช้งานเต็มรูปแบบได้โดยเร็วที่สุด  ผมได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเริ่มต้นก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนแห่งที่ 2  ที่สะพานแห่งนี้โดยเร็วที่สุด ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ พร้อมกับการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อสะพานกับถนนสายหลักในฝั่งกัมพูชา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย ได้เจรจาร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวกับกฎระเบียบการข้ามแดนให้แล้วเสร็จ ทันการเปิดให้บริการประชาชน  แก้ปัญหาความแออัดของการจราจรบริเวณหน้าด่านพรมแดน  และเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าข้ามแดนใหม่ให้มีความสะดวกกว่าเดิม เชื่อมต่ออุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษของกัมพูชา และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ของไทย และเชื่อมต่อไปยังการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก ที่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง


“ในวาระที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประธานอาเซียนในปีนี้  ถือว่าสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาแห่งนี้ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และเป็นรูปธรรมมากที่สุดของทั้ง 2 ประเทศ ยืนยันว่าแนวทางความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา จะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จริงใจ ใกล้ชิด และมั่นคงตลอดไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ปีหน้าไทยกับกัมพูชาจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาครบ 70 ปี  น่าจะประจวบเหมาะกับความคืบหน้าของการก่อสร้าง และเปิดจุดผ่านแดนแห่งใหม่นี้ ในวาระอันเป็นมงคล

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ที่มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการก่อสร้างและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นสะพานเชื่อมใจของชาว จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.สระแก้ว ที่สมควรบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ เป็นช่องทางสำหรับการขนส่งสินค้าเข้าออกส่วนจุดผ่านแดนปอยเปต-อรัญประเทศ และเป็นช่องทางสำหรับการเดินทางข้ามแดนของนักท่องเที่ยวด้วย 

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า ในโอกาสที่น่ายินดีนี้ได้ประพันธ์บทเพลง 4 เพลง ตามคำสัญญาที่มีไว้กับพล.อ.ประยุทธ์ มาบรรเลงในงานนี้  และพล.องประยุทธ์ก็ได้แต่งเพลงชื่อมิตรภาพ มาเพื่อเฉลิมฉลองการเป็นมิตรภาพกัมพูชา-ไทย ให้มั่นคงและยั่งยืนด้วย  

จากนั้น ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้ายชื่อสะพาน และประกอบพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานและฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือไทย-กัมพูชา ให้ยั่งยืนสืบไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ว่า  เป็นโอกาสดีที่ได้กลับมา จ.สระแก้ว อีกครั้ง เพราะอยู่ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และเคยรับราชการอยู่ที่นี่มานาน  ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  และว่า สิ่งที่เป็นห่วงมีอยู่ 2 เรื่อง คือ การค้าขาย ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าจะต้องปรับตัวด้วย ขณะเดียวกัน บ้านเมืองต้องการความรักความสามัคคีเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าใครจะไปจะมาจะต้องมีความสงบ ดังนั้น ทุกคนจะปล่อยให้คนที่ไม่ดีมาทำให้ประเทศวุ่นวายไม่ได้

“ทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษาวัฒนธรรมของคนไทย  ที่เรามีประเพณีปฏิบัติรักและเคารพผู้ใหญ่ มีระบบเครือญาติ ลุงป้าน้าอา ทุกคนต้องดูแลรักษาไว้ จะปล่อยให้ใครมาเปลี่ยนแปลงไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

จากนั้น เวลา 10.15 น.  นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เพื่อประธานในพิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และพบปะประชาชนบริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก

จากนั้น นายกรัฐมตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการกัมพูชา และพิธีส่งมอบรถไฟดีเซลราง   โดยนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ได้เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึกไปยังสถานีปอยเปต 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเสร็จสิ้นพิธี เวลา 12.30 น. นายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว        ..- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย