กองปราบสอบคดีร่างทรงหลอกขุดทรัพย์โบราณ

21 เม.ย.-สำนักข่าวไทยติดตามคดีร่างทรงหลอกชาวบ้านใน 3 จังหวัดภาคอีสาน ให้ขุดทรัพย์สมบัติโบราณ แล้วเรียกรับเงินอ้างเป็นค่าทำพิธี มีผู้แจ้งความไว้กับกองปราบปราม 22 ราย


รูปปั้นพญานาค 2 ตัว ถูกตั้งไว้หน้าบ้านของนางสมบัติ จันสีดา ชาวบ้านม่วงสวรรค์ ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี สุรินทร์ หลังเธอถูกนายทศพร จิตรแม้น ร่างทรงชาวอำเภอเกษตรวิสัย ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นญาติแท้ๆ หลอกให้ไปงมขึ้นมาจากสระน้ำกลางทุ่งนา นางสมบัติ เพิ่งขุดสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำใช้หน้าแล้ง ต่อมาสามีล้มป่วย จึงไปดูดวงกับนายทศพร ซึ่งทักว่า มีพญานาคอยู่ในสระน้ำ ต้องทำพิธีนำขึ้นมาบูชา ด้วยความเป็นญาติ คิดว่าหวังดี จึงให้นายทศพรทำพิธีในสระน้ำ งมพบรูปปั้นพญานาค 2 ตัว และไหขนาดใหญ่ที่นายทศพรอ้างเป็นสมบัติโบราณ


นายทศพร ยังทำพิธีขุดรอบบริเวณบ้านนางสมบัติอีกหลายจุด เจอสิ่งที่อ้างว่าเป็นสมบัติโบราณ เช่น ดาบสั้น พระเครื่อง จากนั้นเรียกเงินหลายครั้ง รวม 3 แสนกว่าบาท ทองรูปพรรณ 4 บาท เป็นค่าทำพิธี และสวดถอนอาถรรพ์ บางส่วนเช่นทองจะคืนให้หลังพิธีสวดถอนอาถรรพ์เสร็จ นางสมบัติถึงกับต้องขายวัว 8 ตัว เพื่อนำเงินมาให้นายทศพร แต่สุดท้ายถูกหลอก สิ่งที่อ้างเป็นสมบัติโบราณเป็นของปลอม เมื่อทวงเงินคืนก็บ่ายเบี่ยงตลอด   


ลูกสาวของนางสิม เสียงเพราะ ชาวบ้านโพนเงิน ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย ร้อยเอ็ด แต่งงานกับพี่ชายของนายทศพร  แต่ความสนิทสนมของสองครอบครัว ไม่ได้ช่วยให้นางสิม รอดพ้นจากการถูกหลอก ด้วยการให้ขุดสมบัติโบราณ เสียเงินให้นายทศพรเกือบ 3 แสนบาท เงินบางส่วนได้จากการจำนำที่นา 5 ไร่ เพื่อเป็นค่าทำพิธี 

ผู้เสียหาย 22 ราย ในสุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม แจ้งความกองปราบ ในจำนวนนี้ เป็นญาติแท้ๆ ของนายทศพร ถึง 10 กว่าคน ซึ่งไม่มีใครคิดว่า จะหลอกญาติได้ คดีนี้กองบัญชาการสอบสวนกลาง อนุมัติให้กองปราบ สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีแล้ว คดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม 

บ้านพักของนายทศพร ในหมู่บ้านโพนทอง ยังคงปิดเงียบ ชาวบ้านบอกว่า หลังถูกแจ้งความดำเนินคดี จนถูกออกหมายจับ และตกเป็นข่าวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ไม่มีใครเห็นร่างทรงรายนี้อีกเลย มีเพียงมารดาที่ยังคงอาศัยอยู่ คาดว่า หลบหนีไปพักอาศัยในพื้นที่อื่น ที่เคยเดินทางไปทำพิธีกรรมให้ ขณะที่การสืบสวนสอบสวนของกองปราบ คืบหน้าเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และพบว่ายังมีบุคคลอื่นร่วมกับนายทศพรในการหลอกลวงชาวบ้านให้ขุดทรัพย์สมบัติโบราณ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง