นายกฯ ย้ำไม่คิดสืบทอดอำนาจ

2531334ร้อยเอ็ด 24 ส.ค.- “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวกับชาวร้อยเอ็ด  ไม่คิดสืบทอดอำนาจ ระบุปัญหาคำถามพ่วง เป็นหน้าที่ของกรธ.กับสนช.จะหารือร่วมกัน    เตือนอย่าฟังข้อมูลที่บิดเบือน โดยเฉพาะจากกลุ่มที่พูดทางทีวี 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  กล่าวกับประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด ว่า วันนี้มาด้วยใจบริสุทธิ์ ตนให้ใจกับทุกคนเสมอมา ทั้งจังหวัดร้อยเอ็ดและทุก ๆ จังหวัด ถือเป็นภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานให้สำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศ  ที่ต้องมีการปฏิรูป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ว่าประชาชนในพื้นที่จะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบประชามติก็ตาม  การทำประชามติเป็นการเริ่มต้นกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง  อย่ากังวลว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ให้ดูว่าคนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจะสามารถทำงานได้ดีหรือไม่ และจะทำได้ดีกว่าตนหรือไม่


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระบวนการเป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อย่าไปฟังคนที่พูดให้เกิดความสับสน ให้เลือกฟังสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และบุคคลที่พูดทางสถานีโทรทัศน์ ต้องระมัดระวังจะกระทำผิด ซึ่งบางกลุ่มตั้งใจดำเนินการ เพื่อต้องการให้จับกุม

“บางคนก็พูดตามช่องทีวี พวกนี้จะติดคุกทุกวันยังไม่เข็ดอีก มีกฎหมายอยู่ แต่ก็ฝืน เขาทำเพื่ออะไร เพื่อต้องการให้มีการจับกุม ต้องการให้ภาพออกไปต่างประเทศ ต้องการให้นักสิทธิมนุษยชนโจมตีเรา ต้องการให้ต่างประเทศมาดูถูกประเทศไทย ในสิ่งที่เขาทำความเสียหายให้กับประเทศไทย จำคำพูดผมไว้นะ หลาย ๆ เรื่องจะปรากฏออกมาเอง ผมไม่ได้รังแกเขา หลายอย่างไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย ผมก็เอาเข้า 8-9 คดี เป็นคดีใหญ่ ๆทั้งสิ้น บางคดีเสียหายกับประเทศ มีการปิดบังปกปิดกันมานาน” นายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปฟังข้อมูลที่บิดเบือน ให้ฟังตน  การจะทำให้ประเทศเดินหน้า ต้องดูแลด้านความมั่นคง  ซึ่งการจับกุมผู้กระทำความผิดต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ทำตามหลักฐาน ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมและเปิดหน้าเล่นกันเช่นนี้ ก็ต้องสู้อย่างเต็มที่


“ขอให้เชื่อใจ ผมไม่คิดที่จะสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่นักการเมือง แต่เข้ามาในฐานะผู้รับใช้ เป็นทหารมาก่อน ซึ่งทหารจะต้องรับใช้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ที่ผ่านมาไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาด้วยโชคชะตา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวถึงการประชุม ว่า ได้ประชุมกับภาคส่วนต่าง ๆ มีการเสนอมา3-4 กลุ่มงาน ทั้งเรื่องคมนาคม การท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบโมเดลร้อยเอ็ด  4.101 มาพิจารณาให้การสนับสนุน  บางเรื่องจะดำเนินการให้เร็วขึ้น  ส่วนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะการผันแม่น้ำโขง ที่จะใช้ในพื้นที่ภาคอีสานจะต้องลงทุนด้วยงบประมาณสูงถึง 2 ล้านล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการจะต้องทำอย่างถี่ถ้วน จะต้องมีการสร้างอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง เพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น ปัญหาของการบริหารจัดการน้ำมีมาอย่างยาวนาน เพราะที่ผ่านมาไม่มีการวางแบบแผน ซึ่งจากนี้จะต้องได้รับการแก้ไข ให้มีแบบแผนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นฝากประชาชนในพื้นที่ต้องมีแนวคิดแบบใหม่ พัฒนาการเกษตรที่จะต้องใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย รวมถึงการปรับเปลี่ยนการปลูกพืช เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาข้าว ที่ต้องทำให้เป็นระบบ ที่ผ่านมาโครงการรับจำนำข้าว สร้างความเสียหาย  รัฐเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น   กระทบต่อระบบการขายข้าวในประเทศ  ส่งผลต่อพื้นที่การปลูกข้าว เพราะเกษตรกรต้องการให้ได้ข้าว เพื่อเข้าสู่โครงการรับจำนำในปริมาณมาก จนต้องหันมาเพาะปลูกพันธุ์ข้าวระยะสั้น ทำให้คุณภาพด้อยลง มีการปลอมปน และผลกระทบที่ตามมา คือการใช้น้ำในปริมาณที่มาก

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญทั้งเรื่องของการลงทุนรถไฟความเร็วสูง  เรื่องของเกษตรกรอย่างเท่าเทียมกัน เพราะทุกอย่างต้องสอดคล้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน อยากให้ทุกคนมีความหวังแม้อนาคตจะยังมองเห็นไม่ชัดเจนก็ตาม แต่อย่างน้อยในขณะนี้ก็เกิดแนวคิดและแผนงานแล้ว

_14041123ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ กับ 5 จังหวัด รอบพื้นที่ทุ่งกุลา ได้แก่  ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร และ มหาสารคาม ในการพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา ด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมกำหนด 3 เป้าหมาย คือให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาได้รับการรับรอง การขึ้นทะเบียนเครื่องบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ  GI เป็นที่รู้จักและยอมรับ

ให้ข้าวหอมมะลิเข้มแข็ง  และเกิดการเชื่อมโยงทั้งในระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด  โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเขตทุ่งกุลามีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 รวมถึงผลผลิตข้าวหอมมะลิได้รับการรับรอง GI  เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 การแปรรูปข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ของปริมาณข้าวเปลือกในทุ่งกุลา และ เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตข้าวหอมมะลิลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10

นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการ  สินค้าจากบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีร้อยเอ็ด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีของขึ้นชื่อคือผ้าไหม ข้าวหอมมะลิและปลาร้าแปรรูป โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดลองสาวไหมจากฝัก และสอบถามเทคนิคการทำผ้าไหม พร้อมแนะนำให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยในการทำกระเป๋า ขณะเดียวกันยังได้ชิมถั่วคั่ว ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนายกรัฐมนตรีและคณะ ก่อนจะชิมปลาร้าบองคู่กับข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นอาหารที่นายกรัฐมนตรีชื่นชอบพร้อมสั่งซื้อกลับ กทม.

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ปลาร้าแปรรูป ซึ่งมีทั้งปลาร้าอัดแห้ง ปลาร้าปรุงอาหารและปลาร้าทำส้มตำ รวมถึงลงมือทำแกงอ่อมไก่และตำส้มตำด้วยตนเอง พร้อมนำไปให้คณะรัฐมนตรีที่ติดตามลงพื้นที่ได้ชิม ก่อนจะระบุว่า เป็นแกงอ่อมไก่ที่อร่อยที่สุดในโลก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย