นายกฯ ย้ำไม่คิดสืบทอดอำนาจ

2531334ร้อยเอ็ด 24 ส.ค.- “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวกับชาวร้อยเอ็ด  ไม่คิดสืบทอดอำนาจ ระบุปัญหาคำถามพ่วง เป็นหน้าที่ของกรธ.กับสนช.จะหารือร่วมกัน    เตือนอย่าฟังข้อมูลที่บิดเบือน โดยเฉพาะจากกลุ่มที่พูดทางทีวี 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  กล่าวกับประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด ว่า วันนี้มาด้วยใจบริสุทธิ์ ตนให้ใจกับทุกคนเสมอมา ทั้งจังหวัดร้อยเอ็ดและทุก ๆ จังหวัด ถือเป็นภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานให้สำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศ  ที่ต้องมีการปฏิรูป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ว่าประชาชนในพื้นที่จะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบประชามติก็ตาม  การทำประชามติเป็นการเริ่มต้นกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง  อย่ากังวลว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ให้ดูว่าคนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจะสามารถทำงานได้ดีหรือไม่ และจะทำได้ดีกว่าตนหรือไม่


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระบวนการเป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อย่าไปฟังคนที่พูดให้เกิดความสับสน ให้เลือกฟังสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และบุคคลที่พูดทางสถานีโทรทัศน์ ต้องระมัดระวังจะกระทำผิด ซึ่งบางกลุ่มตั้งใจดำเนินการ เพื่อต้องการให้จับกุม

“บางคนก็พูดตามช่องทีวี พวกนี้จะติดคุกทุกวันยังไม่เข็ดอีก มีกฎหมายอยู่ แต่ก็ฝืน เขาทำเพื่ออะไร เพื่อต้องการให้มีการจับกุม ต้องการให้ภาพออกไปต่างประเทศ ต้องการให้นักสิทธิมนุษยชนโจมตีเรา ต้องการให้ต่างประเทศมาดูถูกประเทศไทย ในสิ่งที่เขาทำความเสียหายให้กับประเทศไทย จำคำพูดผมไว้นะ หลาย ๆ เรื่องจะปรากฏออกมาเอง ผมไม่ได้รังแกเขา หลายอย่างไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย ผมก็เอาเข้า 8-9 คดี เป็นคดีใหญ่ ๆทั้งสิ้น บางคดีเสียหายกับประเทศ มีการปิดบังปกปิดกันมานาน” นายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปฟังข้อมูลที่บิดเบือน ให้ฟังตน  การจะทำให้ประเทศเดินหน้า ต้องดูแลด้านความมั่นคง  ซึ่งการจับกุมผู้กระทำความผิดต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ทำตามหลักฐาน ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมและเปิดหน้าเล่นกันเช่นนี้ ก็ต้องสู้อย่างเต็มที่


“ขอให้เชื่อใจ ผมไม่คิดที่จะสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่นักการเมือง แต่เข้ามาในฐานะผู้รับใช้ เป็นทหารมาก่อน ซึ่งทหารจะต้องรับใช้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ที่ผ่านมาไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาด้วยโชคชะตา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวถึงการประชุม ว่า ได้ประชุมกับภาคส่วนต่าง ๆ มีการเสนอมา3-4 กลุ่มงาน ทั้งเรื่องคมนาคม การท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบโมเดลร้อยเอ็ด  4.101 มาพิจารณาให้การสนับสนุน  บางเรื่องจะดำเนินการให้เร็วขึ้น  ส่วนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะการผันแม่น้ำโขง ที่จะใช้ในพื้นที่ภาคอีสานจะต้องลงทุนด้วยงบประมาณสูงถึง 2 ล้านล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการจะต้องทำอย่างถี่ถ้วน จะต้องมีการสร้างอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง เพื่อบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น ปัญหาของการบริหารจัดการน้ำมีมาอย่างยาวนาน เพราะที่ผ่านมาไม่มีการวางแบบแผน ซึ่งจากนี้จะต้องได้รับการแก้ไข ให้มีแบบแผนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นฝากประชาชนในพื้นที่ต้องมีแนวคิดแบบใหม่ พัฒนาการเกษตรที่จะต้องใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย รวมถึงการปรับเปลี่ยนการปลูกพืช เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาข้าว ที่ต้องทำให้เป็นระบบ ที่ผ่านมาโครงการรับจำนำข้าว สร้างความเสียหาย  รัฐเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น   กระทบต่อระบบการขายข้าวในประเทศ  ส่งผลต่อพื้นที่การปลูกข้าว เพราะเกษตรกรต้องการให้ได้ข้าว เพื่อเข้าสู่โครงการรับจำนำในปริมาณมาก จนต้องหันมาเพาะปลูกพันธุ์ข้าวระยะสั้น ทำให้คุณภาพด้อยลง มีการปลอมปน และผลกระทบที่ตามมา คือการใช้น้ำในปริมาณที่มาก

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญทั้งเรื่องของการลงทุนรถไฟความเร็วสูง  เรื่องของเกษตรกรอย่างเท่าเทียมกัน เพราะทุกอย่างต้องสอดคล้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน อยากให้ทุกคนมีความหวังแม้อนาคตจะยังมองเห็นไม่ชัดเจนก็ตาม แต่อย่างน้อยในขณะนี้ก็เกิดแนวคิดและแผนงานแล้ว

_14041123ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ กับ 5 จังหวัด รอบพื้นที่ทุ่งกุลา ได้แก่  ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร และ มหาสารคาม ในการพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา ด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมกำหนด 3 เป้าหมาย คือให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาได้รับการรับรอง การขึ้นทะเบียนเครื่องบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ  GI เป็นที่รู้จักและยอมรับ

ให้ข้าวหอมมะลิเข้มแข็ง  และเกิดการเชื่อมโยงทั้งในระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด  โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเขตทุ่งกุลามีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 รวมถึงผลผลิตข้าวหอมมะลิได้รับการรับรอง GI  เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 การแปรรูปข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ของปริมาณข้าวเปลือกในทุ่งกุลา และ เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตข้าวหอมมะลิลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10

นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการ  สินค้าจากบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีร้อยเอ็ด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีของขึ้นชื่อคือผ้าไหม ข้าวหอมมะลิและปลาร้าแปรรูป โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดลองสาวไหมจากฝัก และสอบถามเทคนิคการทำผ้าไหม พร้อมแนะนำให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยในการทำกระเป๋า ขณะเดียวกันยังได้ชิมถั่วคั่ว ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนายกรัฐมนตรีและคณะ ก่อนจะชิมปลาร้าบองคู่กับข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นอาหารที่นายกรัฐมนตรีชื่นชอบพร้อมสั่งซื้อกลับ กทม.

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ปลาร้าแปรรูป ซึ่งมีทั้งปลาร้าอัดแห้ง ปลาร้าปรุงอาหารและปลาร้าทำส้มตำ รวมถึงลงมือทำแกงอ่อมไก่และตำส้มตำด้วยตนเอง พร้อมนำไปให้คณะรัฐมนตรีที่ติดตามลงพื้นที่ได้ชิม ก่อนจะระบุว่า เป็นแกงอ่อมไก่ที่อร่อยที่สุดในโลก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]