กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – เจ้าของเรือประมงขาว-แดงดีใจ กรมประมงพร้อมจ่ายชดเชยเรือที่ต้องออกจากระบบการทำประมง 305 ลำ ให้แจ้งความประสงค์ต่อประมงจังหวัดภายใน 30 เมษายน รับเงินงวดแรกแล้วทำลายเรือจากนั้นรับส่วนที่เหลือ กำหนดเสร็จสิ้นทุกกระบวนการใน 15 กันยายน หลังรอคอยมาเกือบ 4 ปี
นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา ผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเล กล่าวว่า วันนี้สมาคมประมงแห่งประเทศไทย (สปท.) เข้ารับฟังผลสรุปจากนายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง เกี่ยวกับระเบียบการจ่ายชดเชยเจ้าของเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายประมง (เรือขาว-แดง) ซึ่งต้องนำเรือส่วนหนึ่งออกนอกระบบ เนื่องจากเรือประมงมีมากกว่าทรัพยากรทางทะเล ซึ่งกรมประมงจะเปิดให้เจ้าของเรือขาว-แดง 305 ลำตามที่ประกาศรายชื่อไปแล้วนั้น มาเขียนเอกสารยืนยันความจำนงรับค่าชดเชยที่ประมงจังหวัดตั้งแต่วันที่ 22 – 30 เมษายน 2562 โดยทางสมาคมประมงท้องถิ่นทั้ง 22 จังหวัดชายทะเลจะประสานงานและแจ้งข่าวให้ชาวประมงรับทราบ เมื่อคณะทำงานตรวจสอบเอกสาร ทำสัญญา ตรวจเรืออีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าถูกต้องตรงลำสามารถรับเงินค่าชดเชยงวดแรก 30% ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จากนั้นเจ้าของเรือต้องเสนอแผนทำลายเรือภายใน 45 วันนับจากวันเงินเข้าบัญชี อีกทั้งต้องคืนทะเบียนเรือให้กรมเจ้าท่า ทั้งนี้ การทำลายเรือตามแผนต้องเสร็จใน 90 วัน หากเกิดเหตุขัดข้องต่อให้เวลาเพิ่ม 30 วัน
นายสุรเดช กล่าวว่า การทำลายเรือดำเนินการโดยเจ้าของเรือ แต่กรมเจ้าท่า ประมงจังหวัดจะติดตามทุกระยะจนกระทั่งเสร็จสิ้น บันทึกภาพเพื่อยืนยันว่าทำลายเรือจริง จึงสามารถรับเงินค่าชดเชยที่เหลืออีก 70% ทั้งนี้ กรมประมงกำหนดให้ดำเนินทุกกระบวนภายใน 15 กันยายน 2562
“เจ้าของเรือประมง 22 จังหวัดชายทะเลที่ต้องนำเรือออกนอกระบบ ไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ต่อไป ดีใจมากที่มีข้อสรุปเรื่องการจ่ายค่าชดเชยชัดเจน หลังจากที่รอมาเกือบ 4 ปี ชาวประมงจำนวนมากไม่สามารถออกเรือ ทำให้ขาดรายได้ บางรายต้องกู้หนี้ยืมสินมาเลี้ยงครอบครัว เรือกลุ่มขาวแดงถูกตรึงพังงามาตั้งแต่ปี 2558 แต่การจ่ายค่าชดเชยยืดเยื้อ จนกระทั่งผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่นขอให้นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบเร่งช่วยเหลือเมื่อปลายปี 2561 ทำให้เรื่องคืบหน้าจนกระทั่ง ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณและสรุปแนวทางการจ่ายค่าชดเชยอย่างชัดเจนแล้ว ทำให้เจ้าของเรือทั้ง 305 ลำดีใจเป็นอย่างมาก” นายสุรเดช กล่าว.-สำนักข่าวไทย