กระบะตัดหน้ารถ จยย. แต่นักรียนตกเป็นผู้ต้องหา



ขอนแก่น 24 ส.ค.- รถกระบะเลี้ยวตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของนักเรียนบาดเจ็บ แต่ตกเป็นผู้ต้องหาขับรถโดยประมาท เหตุการณ์ผ่านมาเกือบปีแต่คดีไม่คืบ ทนายอาสายื่นมือเข้าช่วย พบเพิ่งออกหมายจับ


24-8-2559 23-59-48 25-8-2559 0-00-10

จากกรณี 2 นักเรียนหญิงอายุ 13 ปี และ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาของ ร.ร.ขามแก่นนคร ขับรถจักรยายนต์ซ้อนท้ายกัน กลับออกมาจากตลาดบ้านดอน อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาถึงบริเวณหน้ากองพันทหารม้าที่ 6 มีรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีดำหมายเลขทะเบียน กพ 3889 ขอนแก่น ขับมาแล้ว เลี้ยวซ้ายตัดหน้ารถจักรยายนต์ของนักเรียนทั้ง 2 คน เพื่อจะเข้าซอยบ้านตัวเอง ทำให้รถจักรยานยนต์ไม่สามารถเบรกได้ทัน พุ่งชนเข้าอย่างจัง ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค.58 เวลาประมาณ 14.00 น.

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุ แม่ของนักเรียนทั้ง 2 คน ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยศิลา ตั้งแต่วันเกิดเหตุ พร้อมกับนำหลักฐานเป็นคลิปวงจรปิดมาให้ตำรวจดู แต่เรื่องผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมเจ้าของรถกระบะมาดำเนินคดีได้ อ้างว่านางอุทัยวรรณ จุลรัตน์ เจ้าของรถกระบะไม่อยู่ในพื้นที่ ไม่สามารถติดตามตัวมาได้ และบอกให้ไปหาหลักฐานมาให้ ขณะที่เด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน ยังตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถโดยประมาท นอกจากนี้ทางตำรวจยังขอไกล่เกลี่ยบอกว่าจะเรี่ยไรเงินตำรวจที่อยู่ด้วยกันให้น้อง คนละ 2,000 บาท เพราะอยากช่วยเหลือน้อง และให้คดีจบไป แต่แม่ของนักเรียนทั้ง 2 คน ไม่ยอมรับเงิน เพราะอยากให้คนที่ทำผิดเป็นคนรับผิดชอบ


นางวรพรรณ เบญจวรกุล ทนายความอาสา กล่าวว่า ตนเองได้เข้ามาช่วยครอบครัวของนักเรียนทั้ง 2 คน โดยในวันนี้ได้พาแม่และน้องทั้ง 2 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยศิลา เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าว เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ได้ย้ายไปแล้ว และทางพนักงานสอบสวนเพิ่งออกหมายจับเจ้าของรถกระบะที่ขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของนักเรียน ซึ่งในเดือน ต.ค.นี้ คดีจะหมดอายุความลง เพราะเป็นคดีที่ไม่ร้ายแรงมีอายุความ 1 ปี และที่ผ่านมาเจ้าของรถกระบะไม่เคยติดต่อมาเพื่อรับผิดชอบใดๆ ต่อครอบครัวของนักเรียนทั้ง 2 คน จากนี้จะดำเนินการฟ้องแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายไปก่อน และอยากให้ทางเจ้าของรถกระบะติดต่อเข้ามาพูดคุยกับทางผู้เสียหาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม