ศปถ. เผย สงกรานต์ 5 วัน เสียชีวิตแล้ว 297 ราย

ศปถ.16 เม.ย.- ศปถ. เผย สงกรานต์ 5 วัน เสียชีวิตแล้ว 297 ราย ด้าน สธ.สั่งโรงพยาบาล แจ้งความวัยรุ่นยกพวกตีกันหน้าห้องฉุกเฉิน 


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน  ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจรักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 472 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 54 ราย บาดเจ็บ 494 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.68 ขับรถเร็ว ร้อยละ 27.54 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.85

โดยอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 2,702 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 297 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,807 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์มี 8 จังหวัด ได้แก่ ตรัง ตราด นครนายกประจวบคีรีขันธ์  พังงา แม่ฮ่องสอน  สุโขทัย และอ่างทอง  ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ เชียงใหม่ จำนวน 104 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี จำนวน 14  ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 104 คน 


ปลัดกระทรวงสาธาณสุข กล่าวว่า สาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุก็คือ การดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ โดยช่วงการเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์ ทางเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกวดขันไม่ให้มีการดื่มสุราในพื้นที่ขับรถ และจะตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ส่วนคนที่ไม่สามารถเป่าเครื่องวัดได้ จะใช้วิธีเจาะเลือด ซึ่งที่ผ่านมาเจาะเลือดไปแล้ว 1,800 ราย พบว่าครึ่งหนึ่งมีปริมาณระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินมาตรฐาน และพบว่าเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี  พบแอลกอฮอลล์ในเลือดถึงร้อยละ 33 ซึ่งตอนนี้ส่งดำเนินคดีแล้ว 300 ราย 

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นดื่มสุราแล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาทหน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ว่า ขอให้เห็นใจบุคลากรของโรงพยาบาล ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งทำให้คนป่วยหรือคนเจ็บอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งทางกระทรวงสั่งการให้โรงพยาบาลแก้งคร้อ  แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ  ทั้งนี้ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปิดล็อคประตูห้องฉุกเฉินทุกครั้ง และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล  

กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าวันนี้(16 เม.ย.)มีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่างๆเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นปฏิบัติงานประจำจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรอง พร้อมทั้งได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประสานเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง และได้เตรียมหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมทั้งเตรียมระบบสื่อสารแจ้งเหตุและอุปกรณ์เครื่องมือโดยสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว