สงขลา 11 เม.ย.-เปิดประวัติ “อัมรัน มูดอ” หลังถูกเจ้าหน้าที่ยิงบาดเจ็บขณะเข้าจับกุม พบเป็นถึงแกนนำระดับสั่งการใหญ่ที่สุดที่รับผิดชอบพื้นที่ก่อเหตุในสงขลา และเป็นผู้บงการเหตุคาร์บอมบ์หน่วย ฉก.สงขลา และระเบิดแหลมสมิหลา
เมื่อช่วงเช้าเกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อเหตุไม่สงบใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้คนร้ายถูกยิงเจ็บ 1 คน ทราบชื่อคือ “อัมรัน มูดอ” เป็นถึงแกนนำระดับสั่งการใหญ่ที่สุดที่รับผิดชอบพื้นที่ก่อเหตุในสงขลาและเป็นผู้บงการเหตุคาร์บอมบ์หน่วย ฉก.สงขลา และระเบิดแหลมสมิหลา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (11เม.ย.) โดยเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อเหตุไม่สงบ บริเวณบ้านล่องควน หมู่ 6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยขณะนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจสงขลา และตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย กำลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีวางระบิดใน อ.ควนเนียง เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับคดีระเบิดนางเงือกแหลมสมิหลา แต่ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายได้ใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.ต.อ.สิทธิกรณ์ อินต๊ะเสาร์ ผบ.หมู่ ตชด.43 กระสุนเฉี่ยวที่หน้าผากถูกนำตัวส่ง รพ.สะบ้าย้อย ส่วนคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บคือ นายอัมรัน มูดอ อายุ 33 ปีถูกยิงที่แผ่นหลังและถูกนำส่ง รพ.สะบ้าย้อย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และพบอาวุธปืนขนาด .357 ของคนร้ายตกอยู่ที่จุดปะทะ ในสภาพถูกยิงไปหมดลูกโม่ 7 นัด แต่กระสุนด้านไป 4 นัด และทำงานแค่ 3 นัด จากนั้นได้เข้าตรวจค้นในบ้านพักของนายอัมรัน ที่ไม่ไกลจากจุดปะทะ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
ขณะที่รายงานล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับสูงพบว่า นายอัมรัน มูดอ เป็นแกนนำระดับสั่งการสูงสุด ที่รับผิดชอบก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่สงขลา โดยมีชื่อที่เรียกกันในกลุ่มว่า “ฟูรากอน” และมีตำแหน่งใหญ่กว่า “นายบูคอรี หลำโซะ” แกนนำคนสำคัญในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนของจังหวัดสงขลาที่ยังจับกุมไม่ได้ โดยประวัติการก่อเหตุถือว่าโชกโชน เพราะเป็นคนสั่งการในคดีฆ่าแขวนคอ นายอมตะ สโมทานทวี อายุ 62 ปี หรือ “ครูจ้อง” ที่บ้านพักใน อ.สะบ้าย้อย และชิงรถกระบะไปวางคาร์บอมหน้าหน่วยเฉพาะกิจสงขลาเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2561 ซึ่งบ้านพักของนายอัมรัน ห่างจากบ้านพักของ “ครูจ้อง” เพียง 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นผู้สั่งการและร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าที่ อ.ควนเนียง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับเหตุระเบิดนางเงือกแหลมสมิหลาเมื่อคืนวันที่ 26 ม.ค.2561 จนนำไปสู่การถูกออกหมายจับ และตำรวจพบความเคลื่อนไหวจึงเข้าตรวจค้นและยิงปะทะกันในวันนี้
สำหรับอาการของ ส.ต.อ.สิทธิกรณ์ อินต๊ะเสาร์ ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อเช้า พบว่าถูกกระสุนเฉี่ยวเข้าที่หน้าผากเป็นแผลลึกและยาวเกือบ 3 นิ้ว ถือว่ารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจากวิถีกระสุนที่คนร้ายยิงสวนมาเป็นแนวเฉียงขึ้นฟ้า ทำให้ถากหน้าผาก และทะลุหมวก.-สำนักข่าวไทย