กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – จีซีตั้งสำรองจ่ายเพิ่ม 800 ล้านบาท รับกฎหมายคุ้มครองแรงงานใหม่ คาดไตรมาส 1 กำไรสตอกน้ำมัน ด้านราคาน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนจากผลกระทบปัญหาสงครามลิเบีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ฉบับที่ 7 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 5 เมษายน2562 มีผลใช้บังคับถัดจากวันประกาศไป 30 วัน หรือเริ่มบังคับใช้วันที่ 5 พฤษภาคม 2562 สาระสำคัญมีหลายประเด็นในส่วนสำคัญ คือ การเพิ่มอัตราค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเพิ่มขึ้น เช่น กรณีทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไปให้นายจ้างจ่าย 400 วัน จากเดิม 300 วัน ในส่วนนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องตั้งสำรองค้างจ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น หากมีพนักงานปริมาณมากก็ต้องต้องสำรองสูงขึ้น เช่น บมจ.ไออาร์พีซี มีพนักงาน 5,100 คน ตั้งสำรองปีนี้ในส่วนนี้ 760 ล้านบาท บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย สำรองประมาณ 2,000 ล้านบาท
นางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินละบัญชี บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) กล่าวว่า บริษัทจะต้องมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงาน 800 ล้านบาท จากพนักงานที่มีอยู่ที่ทั้งหมดประมาณ 6,100 คน
นางสาวดวงกมล กล่าวด้วยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 คาดว่าจะดีกว่าในไตรมาส 4/2561 ซึ่งจะเห็นได้จากราคาน้ำมันขยับดีขึ้น ทำให้คาดว่าจะมีกำไรจากสตอกน้ำมันจากไตรมาส 4/2561 ขาดทุนจากสตอกน้ำมัน โดยธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์ดี ค่าการกลั่น (GRM) ดีขึ้น ขณะที่ส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยรวมยังมีทิศทางทรงตัว แม้สเปรดของผลิตภัณฑ์พาราไซลีน (PX) จะยังดีต่อเนื่องก็ตาม
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2561 ของ PTTGC มีรายได้จากการขาย 129,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,060 ล้านบาท มีค่าการกลั่นไม่รวมผลกระทบจากสตอก 5.52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมีผลขาดทุนจากสตอก 8.43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการกลั่นรวมผลกระทบขาดทุนสตอกน้ำมัน 2.61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่มีสเปรดผลิตภัณฑ์ PX ที่ระดับ 562 เหรียญสหรัฐ/ตัน และสเปรดผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ที่ระดับ 639 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ด้าน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด วานนี้ (8 เม.ย.) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบโลกจะตึงตัวจากการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่ลดลง หลังกองกำลังติดอาวุธจากภาคตะวันออกของลิเบียได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีสนามบินของเมืองตริโปลี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของลิเบีย ขณะที่ซาอุดิอาระเบียออกมาระบุว่ายังเร็วเกินไปที่ประเทศสมาชิกทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะตัดสินใจยืดระยะเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบออกไปจนถึงสิ้นปี แต่ให้จับตามองการประชุมระหว่างรัฐมนตรีแต่ละประเทศของสมาชิกทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก (JMMC) ที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม 2562 เนื่องจากผลการประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดตัดสินใจสำคัญที่จะบ่งบอกว่าจะมีการยืดระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปหรือไม่ ซึ่งรัสเซียจะเสนอให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นในการประชุมกลุ่มโอเปกในเดือนมิถุนายน 2562 โดยรัสเซียมองว่าการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 228,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับรัสเซีย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปิดวานนี้ น้ำมันเวสต์เท็กซัส ราคาพุ่งขึ้น 1.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 64.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 0.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 71.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และดูไบเพิ่มขึ้น 1.44 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 70.16 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล.-สำนักข่าวไทย