เชียงใหม่ 8 เม.ย.-คุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น ด้านชุดปฏิบัติการยับยั้งไฟป่าหมอกควัน ยังคงเร่งลดจุดฮอตสปอตที่เกิดจากการเผา
สภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ดีขึ้น ท้องฟ้าโปร่ง เริ่มมองเห็นดอยสุเทพ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดลงทุกสถานีตรวจวัด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 63 ถึง 74 ไมโครกรัม เกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย ดัชนีชี้วัดเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีส้ม ส่วนจุดฮอตสปอต หรือจุดความร้อนจากการเผา วันนี้พบ 46 จุด เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 2 จุด สูงที่สุดที่อำเภอพร้าว 16 จุด
นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าไฟป่าที่อำเภอพร้าวเกิดหลายจุด เนื่องจากเป็นป่าลึก สาเหตุมาจากผู้ลักลอบหาของป่า โดยเฉพาะหารังผึ้ง ซึ่งต้องใช้วิธีจุดไฟรมควัน ได้กำชับให้นายอำเภอส่งชุดปฏิบัติการออกลาดตระเวนต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังสั่งให้เฝ้าระวังพื้นที่อำเภอแม่ริม ซึ่งพบไฟป่าเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกันถึง 5 จุด ประเมินการทำงานป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เกือบ 1 สัปดาห์ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่และเร่งรัดการปฏิบัติการเชิงรุก ว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลายทั้งค่าฝุ่นละอองและจุดฮอตสปอตที่ลดลง และจังหวัดจะยังคงชุดปฏิบัติการในพื้นที่อย่างน้อยจนถึงวันที่ 15 เมษายน หรือจนกว่าจะเกิดฝนตกในพื้นที่
ด้านสถานการณ์ไฟป่าแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เริ่มคลี่คลาย ภายหลังได้ระดม ฮ. 2 ลำ ร่วมปฏิบัติการดับไฟในพื้นที่ 9 หมู่บ้านเสี่ยง ตำบลแม่คง เป็นผลทำให้ค่าจุดความร้อนลดลง โดยการปฏิบัติการใช้อากาศยานดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน พร้อมเน้นย้ำและขอความร่วมมือประชาชนให้ยุติการเผา หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
ส่วนที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน บริเวณชายแดนไทย-ลาว ต้องเผชิญวิกฤติหมอกควันอย่างหนัก มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นทั่วท้องฟ้า จนไม่สามารถมองเห็นภูเขาสูง ค่าฝุ่นละอองล่าสุดที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศตำบลห้วยโก๋น ตรวจวัดค่าฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ที่ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ปฏิบัติการ การป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันยังเป็นไปอย่างเข้มข้น เจ้าหน้าที่บูรณาการกำลังร่วมกับชาวบ้าน ทั้งตั้งด่านตรวจพร้อมกับจัดชุดลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่เฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟป่า และร่วมกันทำแนวกันไฟกับชุมชน สร้างจิตสำนึกและหันมาเป็นแนวร่วมดูแลป่าไม้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย