ตำรวจเตรียมตรวจ DNA คดีศพเด็กห้องเช่าย่านอ่อนนุช

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.- พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยังไม่แจ้งข้อหาผู้ที่อ้างว่าเป็นแม่เด็กที่เสียชีวิตคาอพาร์ตเมนต์ 10 วัน เพราะยังสับสนข้อมูล เตรียมตรวจ DNA ให้ชัด


เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) หญิงสาวนิรนามเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน หลังอ้างว่าเป็นแม่ของเด็กอายุ 1-2 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตจนร่างเน่าในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่ย่านอ่อนนุช พร้อมอ้างว่าเด็กสำลักนมเสียชีวิต จึงหนีไปเพราะเกรงกลัวความผิด 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.นิรันดร์ โสมะคุณานนท์ รองผู้กำกับการ สน.คลองตัน บอกว่า ขณะนี้ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของหญิงสาวอายุ 27 ปีรายนี้ โดยเฉพาะในประเด็นที่บอกว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้เด็กที่เสียชีวิตไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตนว่าเกิดที่ไหนและอย่างไร อีกทั้งพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวยังให้การไม่ชัดเจน ขณะที่ตำรวจยังต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มหลายปาก ทั้งบุคคลในอพาร์ตเมนต์และเพื่อนร่วมงาน  เพราะติดใจว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาถึงไม่มีใครเคยพบ หรือ รู้ว่าหญิงคนนี้ตั้งครรภ์ หลังจากนี้จะต้องนำ DNA เด็กที่ตายไปเปรียบเทียบกับหญิงสาวคนดังกล่าว ขณะที่ผลการชันสูตรเบื้องต้นพบเด็กเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 วัน เพราะขาดอาหาร


อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับหญิงดังกล่าว เพราะไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่ ถ้าเป็นแม่ลูกกันจริงจะเข้าข่ายความผิดฐานความรุนแรงในครอบครัว แต่ถ้าไม่ใช่แม่ลูกกันตำรวจต้องสืบสวนขยายผลอย่างละเอียด ขณะที่การให้ปากคำเรื่องวัน-เวลาที่เด็กเสียชีวิตนั้น หญิงสาวระบุว่าเป็นวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาก่อนย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดทันที

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หญิงสาวที่อ้างเป็นแม่ได้มาเช่าห้องพักได้ 2 ปี ทุกเดือนจะชำระค่าห้องพักด้วยการโอนผ่านธนาคาร และมักเข้าห้องพักกลางดึก รวมทั้งออกไปทำงานในช่วงเช้ามืด ที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุย หรือทำความรู้จักกับคนอื่น จึงไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องคือใคร และในห้องมีเด็กอยู่หรือไม่ 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา นางจุฑารัตน์ สุวรรณนิช เจ้าของอพาร์ตเมนต์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. มีผู้พักอาศัยโทรไปบอกว่าได้กลิ่นเหม็นเหมือนมีสัตว์ตาย ครั้งแรกคิดว่าเป็นกลิ่นแมวตาย เพราะก่อนหน้านี้ มีผู้พักอาศัยรายอื่นได้โทรไปแจ้งว่าแมวที่เลี้ยงไว้หายไป จึงไล่เช็กแต่ละห้อง เมื่อถึงห้อง 2/4 พอลองดมกลิ่นใต้ประตู ปรากฏว่าได้กินสาบ จึงคิดว่าไม่น่าจะใช่แมวตาย เพราะห้อง 2/4 ไม่ได้เลี้ยงแมว แต่คิดว่าเป็นกลิ่นอาหารจากตู้เย็น เพราะเชื่อว่าอาจไม่ได้เสียบปลั๊กตู้เย็น แต่เจ้าของห้องไม่อยู่ จึงได้นำบันไดไม้ไผ่พาดตรงระเบียงเพื่อดูให้แน่ใจอีกครั้ง ซึ่งที่ระเบียงมีการปิดหน้าม่าน ประตูต่างๆ ไว้หมด แต่พบว่าพัดลมเปิดอยู่ จึงรู้สึกว่าผิดสังเกต ก่อนสั่งให้มีการงัดประตูห้องเข้าไป จึงพบศพเด็กน้อย อายุ 1-2 ขวบ ลักษณะผิวคล้ำดำจากการเสียชีวิตมาหลายวัน มีเลือด และน้ำเหลืองเกรอะกรังที่พื้น จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ  


จากนั้นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ได้โทรศัพท์ไปยังผู้เช่าห้อง และหญิงคนดังกล่าวได้อ้างว่าศพที่พบนั้นเป็นลูกของตนเอง แต่ต้องปกปิดข้อมูลไว้เพราะเหตุผลส่วนตัว เนื่องจากไม่ต้องการให้ครอบครัวรู้ พร้อมกับขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าเด็กเสียชีวิตเพราะสำลักนม จึงหนีไปอยู่กับญาติ

ทั้งนี้ จากการตรวจสภาพภายในห้องพบว่าไม่มีกระป๋องนม กระติกน้ำร้อน หรือแม้แต่สิ่งของที่จำเป็นต่อการเลี้ยงเด็ก แต่มีข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ 3 เดือน มีผู้พักอาศัยรายอื่นได้ยินเสียงเด็กร้องออกจากห้อง จึงได้โทรไปสอบถามว่าขังเด็กไว้ในห้องหรือเปล่า แต่แม่ของเด็ก บอกว่าเลี้ยงกุมารทองไว้ เพราะทำอาชีพขายประกัน จึงต้องเลี้ยงไว้ช่วย และคิดว่าเป็นเรื่องจริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]