ศพเด็ก

โซล 22 ส.ค. – ตำรวจเกาหลีใต้ เผยว่า เด็ก 2 คนที่มีคนพบเป็นศพยัดอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่นิวซีแลนด์ อาจมีญาติอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ตำรวจกรุงโซลของเกาหลีใต้ ระบุวันนี้ว่า หญิงที่คาดว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวของเด็ก 2 คนที่ถูกพบเป็นศพยัดอยู่ในกระเป๋าเดินทางในนิวซีแลนด์ อาจอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ตำรวจนิวซีแลนด์ได้ส่งคำร้องมายังตำรวจเกาหลีใต้ให้ยืนยันว่า หญิงคนดังกล่าว ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุอาชญากรรมครั้งนี้ อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้จริงหรือไม่ และเมื่อพิจารณาจากอายุและที่อยู่เดิมแล้ว เธออาจเป็นมารดาของเด็กทั้ง 2 คน ตำรวจเกาหลีใต้ยังระบุว่า หญิงรายนี้เป็นชาวนิวซีแลนด์ที่เกิดในเกาหลีใต้ เธอเดินทางมายังเกาหลีใต้ในปี 2561 และไม่มีประวัติเดินทางกลับนิวซีแลนด์ ขณะนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ยังไม่ทราบที่อยู่ของเธอในเกาหลีใต้ และไม่ทราบว่าเธอมีญาติอยู่ในเกาหลีใต้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ ตำรวจนิวซีแลนด์ได้เริ่มสืบสวนคดีฆาตกรรม หลังครอบครัวหนึ่งแจ้งพบศพเด็ก 2 ร่างถูกยัดในกระเป๋าเดินทางที่ซื้อมาจากการประมูลเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เมืองออกแลนด์ของนิวซีแลนด์ เด็กทั้งสองมีอายุราว 5-10 ปี และเสียชีวิตมาเป็นเวลานานแล้ว อย่างไรก็ดี ตำรวจนิวซีแลนด์ระบุว่า ครอบครัวที่พบศพไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

เวลลิงตัน 18 ส.ค. – ตำรวจนิวซีแลนด์ระบุว่า พบศพเด็ก 2 รายถูกยัดในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบที่ครอบครัวหนึ่งประมูลซื้อมาได้ในเมืองออกแลนด์ ตำรวจสืบสวนของนิวซีแลนด์เผยวันนี้ว่า พบศพเด็กประถม 2 รายถูกยัดในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบที่ครอบครัวหนึ่งประมูลซื้อมาได้ในเมืองออกแลนด์ คาดว่าศพเด็กทั้งสองมีอายุ 5-10 ปี และถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางมาเป็นเวลาหลายปี โดยที่กระเป๋าทั้งสองใบมีขนาดพอดีกับร่างเด็ก ทั้งยังระบุว่า คดีนี้มีความซับซ้อนในการสืบสวน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการลำดับเวลาระหว่างช่วงที่เสียชีวิตกับช่วงที่ค้นพบศพ ตำรวจนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่า ครอบครัวที่ประมูลซื้อกระเป๋าเดินทาง 2 ใบนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ ทั้งหมดรู้สึกเศร้าสะเทือนใจอย่างมากหลังรู้ว่ามีร่างเด็กอยู่ในกระเป๋าเดินทาง และขอให้ตำรวจไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว นอกจากนี้ ตำรวจยังพบข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวในกระเป๋าเดินทาง และอาจใช้หลักฐานเหล่านี้มาช่วยระบุตัวตนของเด็ก ทั้งยังระบุว่า ตำรวจนิวซีแลนด์กำลังประสานงานกับองค์การตำรวจสากล (Interpol) เพื่อเร่งสอบสวนคดีนี้ด้วย แต่คาดว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ในนิวซีแลนด์ และรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวของเด็ก ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ตำรวจนิวซีแลนด์จะเร่งนำศพไปเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ดีเอ็นเอ และตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด. -สำนักข่าวไทย

กลุ่มชนพื้นเมืองในแคนาดาเรียกร้องให้ทางการค้นหาหลุมฝังศพหมู่ในโรงเรียนประจำสำหรับชาวพื้นเมืองทั่วประเทศ หลังพบศพเด็ก 215 คนฝังอยู่ที่โรงเรียนเก่าแห่งหนึ่งจนสร้างความตกใจไปทั่วประเทศ

แวนคูเวอร์ 30 พ.ค.- กลุ่มชนพื้นเมืองในแคนาดาเรียกร้องคริสต์จักรคาทอลิกขอโทษที่มีส่วนร่วมในนโยบายยุคก่อนของแคนาดาที่บังคับเด็กพื้นเมืองไปอยู่โรงเรียนประจำ หลังจากมีการพบศพเด็ก 215 คนในสถานที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในรัฐบริติชโคลัมเบีย หัวหน้ากลุ่มชนพื้นเมืองคัมลูปส์ เด ซูเวปมัก เฟิร์ส เนชัน (Tk’emlups te Secwépemc First Nation) แจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีเรื่องการพบศพเด็กจำนวนมาก ณ สถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประจำอินเดียคัมลูปส์ที่คริสตจักรคาทอลิกเป็นผู้ดำเนินการ และถูกปิดไปในปี 2521 เชื่อว่า มีศพอีกมากที่ยังไม่พบเนื่องจากยังค้นหาไม่ทั่ว ทางกลุ่มเตรียมชันสูตรพลิกศพเด็กทั้งหมด บางศพอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น และเรียกร้องอีกครั้งให้คริสตจักรคาทอลิกขอโทษที่มีส่วนร่วมในนโยบายของแคนาดายุคคริตศตวรรษที่ 19 และ 20 ที่พรากเด็กชนพื้นเมืองจากครอบครัวไปอยู่ในโรงเรียนประจำของรัฐ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดทวีตเมื่อวันศุกร์ว่า เป็นสิ่งย้ำเตือนที่เจ็บปวดว่าแคนาดามีหน้าประวัติศาสตร์ที่ดำมืดและน่าละอาย เขาเคยถวายหนังสือถึงสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ขอให้คริสตจักรขอโทษตามที่คณะกรรมาธิการค้นหาความจริงและความปรองดองของแคนาดามีความเห็นในปี 2558 ว่า คริสตจักรมีส่วนร่วมใน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม” รายงานของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า เด็กชนพื้นเมืองเกือบ 150,000 คน ที่เข้าโรงเรียนระหว่างปี 2426-2539 เพื่อปรับตัวให้กลมกลืนกับสังคมคนผิวขาวในแคนาดา ส่วนใหญ่ถูกละเลยและข่มเหง เพราะถูกห้ามพูดภาษาถิ่นและรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม รัฐบาลแคนาดาเคยขอโทษในปี 2551 ยอมรับว่า […]