เชียงใหม่ 4 เม.ย. – แม้จะมีความพยายามแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า แต่วิกฤติที่ยืดเยื้อหลายสัปดาห์ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะช่วงที่กำลังเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์
นักท่องเที่ยวต่างชาติสวมหน้ากากอนามัยเดินเที่ยวชมตัวเมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางอากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละออง เป็นสภาพที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมากว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ เผชิญวิกฤติหมอกควันไฟป่า สถานการณ์ที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว จนใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ สร้างความวิตกให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรม ซึ่งระบุว่ายอดจองที่พักช่วงสงกรานต์ลดลงเหลือร้อยละ 60 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มียอดจองราวร้อยละ 85 จากจำนวนห้องพักกว่า 60,000 ห้อง กระจายอยู่ในโรงแรมกว่า 2,000 แห่งทั่วเชียงใหม่
กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักช่วงสงกรานต์ของเชียงใหม่ ร้อยละ 70 เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งอ่อนไหวต่อวิกฤติหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง ตัดสินใจยกเลิกการเดินทาง หันไปท่องเที่ยวเมืองรอง ส่วนนักท่องเที่ยวในยุโรปและเอเชีย เช่น จีน ไม่ได้รับผลกระทบถึงกับยกเลิกการเดินทางมากนัก เนื่องจากเป็นการจองระยะยาว แต่คาดว่าสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองที่รุนแรงจะส่งผลให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ในเดือนเมษายนี้ติดลบไม่น้อยกว่าร้อยะ 15
ขณะเดียวกันมีเสียงสะท้อนจากชาวต่างชาติทั้งที่เดินทางมาท่องเที่ยว และพักอาศัยอยู่ในเชียงใหม่ ต่อวิกฤติหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้น
แม้มูลค่าความเสียหายทางการท่องเที่ยวจากสถานการณ์หมอกควันไฟป่ายังไม่ชัดเจน แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่มองว่า หลังการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ทำให้จังหวัดขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาเชิงรุกมากขึ้น และฝากความหวังให้ทุกภาคส่วนบูรณาการแก้ปัญหาระยะยาว ฟื้นภาพลักษณ์ของความเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก หลังครองแชมป์เมืองท่องเที่ยวที่คุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลกติดต่อกันนานเกือบ 1 สัปดาห์. – สำนักข่าวไทย