แม่ค้าไก่ย่างร้องถูกชายแต่งกายคล้าย ตร.อุ้มยัดข้อหา ก่อนรีดเงิน

หนองบัวลำภู 3 เม.ย.- แม่ค้าขายไก่ย่างชาวหนองบัวลำภู พร้อมพี่สาว ร้องถูกชายแต่งกายคล้ายตำรวจบุกเข้าบ้าน อุ้มขึ้นรถ ยัดข้อหาขายหวยเถื่อน รีดเงินรวม 12,000 บาท ก่อนปล่อยตัวทิ้งกลางทาง หลังร้องเรียนทางการผู้ก่อเหตุโผล่เอาเงินคืน แต่ผู้เสียหายยังข้องใจใช่ตำรวจจริงหรือไม่ หรือเป็นคนร้ายแอบอ้าง


เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากนายเกรียงไกร ไทยอ่อน รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดหนองบัวลำภู ว่ามีชาวบ้านใน อ.ศรีบุญเรือง ร้องเรียนว่า มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจคุมตัวผู้หญิง 2 คน ขึ้นรถจากบ้านพักและยัดข้อหาขายหวยเถื่อน สุดท้ายข่มขู่รีดเงินชาวบ้านทั้ง 2 คน คนละ 6,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท จึงปล่อยตัวกลับมา จึงอยากให้สื่อมวลชนเข้าร่วมตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย


หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านริมพองพัฒนา ต.นากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พบกับนางเขียว น้อยคูณ อายุ 51 ปี และนางรุ่งนภา ภูบัวใบ อายุ 40 ปี โดยนางเขียว น้อยคูณ เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 09.30 น.ตนเองนั่งเล่นอยู่ในบ้าน มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจขับรถกระบะเชฟโรเลต สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1771 จำหมวดอักษร และจังหวัดไม่ได้  บุกเข้ามาที่บ้านตนเอง 2 คน และบอกว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ตนเองขายหวยใต้ดินจากนั้น ชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน ได้ค้นตัว และพบกระดาษเศษ 1 ใบ ซึ่งตนเขียนตัวเลขเพื่อจะไปซื้อหวยใต้ดิน จึงอธิบายให้ฟัง แต่ชายทั้ง 2 คน ไม่เชื่อ ข่มขู่ตนบังคับให้ขึ้นรถ โดยบอกว่าจะพาไปส่งตัวดำเนินคดีที่สถานีตำรวจศรีบุญเรือง ตนเองอยู่คนเดียว และกลัวจึงขึ้นรถไปด้วย

ระหว่างทางรถยนต์ของชายทั้ง 2 คน ได้ขับผ่านบ้านนางรุ่งนภา ภูบัวใบ น้องสาวของตนเอง ชายทั้งสองคนจอดรถ ตรงไปหานางรุ่งนภา ภูบัวใบ ขอค้นตัวแต่ไม่มีอะไร ขณะนั้นนางวันดี แวงวรรณ อายุ 44 ปี เพื่อนบ้านที่บ้านติดกัน ก็โดนถูกชายฉกรรจ์ทั้งสองคนค้นตัวด้วย ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง หมายค้นก็ไม่มี และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด


จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้งสองคนบังคับนางรุ่งนภา ภูบัวใบ ให้ขึ้นรถไปด้วย โดยอ้างว่าจะพาเข้าไปที่ สภ.ศรีบุญเรือง เพื่อดำเนินคดี ระหว่างนั่งอยู่บนรถชายทั้ง 2 คน พูดเกลี้ยกล่อมและข่มขู่ตลอดทางว่า ถ้าเกิดไปถึงโรงพักแล้วต้องขึ้นศาล คดีจะยืดยาวและต้องเสียเงินจำนวนหลายหมื่น นางเขียว และนางรุ่งนภา ทั้ง 2 คน อยากจบเรื่องและอยู่ในอาการหวาดกลัว จึงบอกไปว่า 2 คน มีเงินแค่ 12,000 บาท โดยจะจ่ายให้คนละ 6,000 บาท และมอบเงินให้ไปที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในตัว อ.ศรีบุญเรือง หลังจากนั้นชายฉกรรจ์ทั้งสองคนรับเงิน แล้วขับรถมาปล่อยตัวผู้เสียหายทิ้งไว้ที่สามแยกถนนข้างเทศบาลจอมทอง สักพักนายพงศกร ภูบัวใบ สามีของนางรุ่งนภา ก็ขับรถมารับทั้งสองคนกลับบ้าน

พอกลับมาถึงบ้าน จึงนั่งปรึกษาญาติพี่น้อง และปรึกษาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งแนะนำให้โทรไปปรึกษาร้องทุกข์ที่นายเกรียงไกร ไทยอ่อน รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดหนองบัวลำภู และได้ประสานผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นนายเกรียงไกร โพสต์เฟซบุ๊ก ต่อมาประมาณ 3 ชั่วโมง ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายว่า จะขอคืนเงินที่เอาไปจำนวน 12,000 บาท โดยผู้เสียหายนัดให้ชายฉกรรจ์มาที่ สภ.ศรีบุญเรือง 

นางเขียว และนางรุ่งนภา พร้อมกับญาติจำนวน 5 คน เดินทางไปที่ สภ.ศรีบุญเรือง สักพักได้มีหนึ่งในชายที่ก่อเหตุ แอบเดินมาข้างตึก และบอกว่าให้ไปคุยข้างนอกได้ไหม ไม่อยากคุยในโรงพัก แต่ผู้เสียหายบอกต้องเอาเงินมาคืนอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นจะไม่เจรจาด้วย จากนั้นชายคนดังกล่าวนัดให้ไปรอที่บริเวณถนนตรงข้ามฝั่งธนาคารกรุงไทย สาขาศรีบุญเรือง โดยชายทั้ง 2 คน ขับรถตามหลังผู้เสียหายมา พอรถยนต์จอดนำเงินมามอบคืนให้ และขอร้องว่าให้จบเพียงแค่นี้ ไม่ต้องไปร้องเรียนที่ไหน แต่สื่อมวลชนและผู้เสียหายก็อยากจะตรวจสอบให้แน่ชัดเหมือนกันว่าชายทั้ง 2 คนนี้ เป็นตำรวจจริงไหม  หรือเป็นคนร้ายที่แอบอ้างมาข่มขู่ตบทรัพย์ จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจระดับสูงของจังหวัดหนองบัวลำภู ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย