นักวิชาการมองรัฐบาลใหม่ไร้เสถียรภาพ

ธรรมศาสตร์ 1 เม.ย. – นักวิชาการมองรัฐบาลใหม่ไร้เสถียรภาพ แนะเร่งสร้างความเชื่อมั่น สานต่อนโยบาย EEC คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 3-4 


นายเจน นำชัยศิริ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายในงานเสวนาก้าวสู่ 70 ปี เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 5 ร่วมกับ Thammasat Economic Focus (TEF) ครั้งที่ 16 เรื่อง “เดินหน้าเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้ง” ว่า ผลการเลือกตั้งออกมาแบบไม่คาดคิด รัฐบาลและฝ่ายค้านมีคะแนนเสียงใกล้เคียงกัน การจะแก้ไขกฎหมายอะไรก็ทำได้ยาก พร้อมยอมรับว่าผิดหวังกับนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองที่มองข้ามประเด็นสำคัญที่ทำให้ภาคธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปและแข่งขันได้ นั่นก็คือ เรื่องการยกระดับการศึกษาแทบจะไม่มีพรรคใดหยิบยกเรื่องการศึกษามาเป็นนโยบายสำคัญในการหาเสียง ทั้งที่การศึกษาเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศ ประกอบกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นที่ทำให้ต้นทุนของธุรกิจสูงขึ้น และการแก้ไขกฎกติกาต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น การขออนุญาตการทำธุรกิจ และการอนุญาตให้บุคลากรชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นในการนำเข้าบุคลากรด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาธุรกิจ

นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า การเลือกตั้งและการนับคะแนนก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายจนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่หุ้นไทยตกหลังเลือกตั้ง โดยราคาหุ้นคงผันผวนในแนวแคบจนกว่าจะมีการเปิดสภาเลือกรัฐบาล พร้อมมองว่าหากรัฐบาลใหม่ไม่ได้เสียง ส.ส.อย่างต่ำ 270 – 280 เสียง คงไม่มีเสถียรภาพ


นอกจากปัญหาเสถียรภาพรัฐบาลแล้ว รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจให้กับภาคเอกชนและประชาชน ด้วยการมุ่งสานต่อนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) บูรณาการนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคใดคุมกระทรวงใดก็ใช้นโยบายพรรคนั้น พร้อมสร้างโอกาสการทำมาหากินให้กับประชาชนและธุรกิจขนาดเล็กมีงานที่ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้รัฐมนตรีและเครือข่ายเกิดการทุจริต

นายอภิชาต สถิตนิรามัย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ ขาดความชอบธรรม และอายุสั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างและความเหลื่อมล้ำได้จะยังคงใช้นโยบายมักง่าย เพื่อคงอำนาจหรือกลับเข้าสู่อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม โดยผลงานที่จะเกิดขึ้นได้อาจจะมีแค่การ “แจก” หรือมาตรการเฉพาะหน้าต่าง ๆ ตามที่สัญญาไว้  ซึ่งคาดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะถูกแก้ไขหรือฉีกทิ้งภายใน 2 – 3 ปี ขณะที่เศรษฐกิจปีนี้คาดขยายตัวร้อยละ 3 – 4 โดยมีปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโลก. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์

การจราจรมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า

คนแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ เส้นทางมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า แต่ยังเคลื่อนตัวได้ ยังไม่เปิดช่องทางพิเศษ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม