กรุงเทพฯ 1 เม.ย.- ผู้ค้าเช่าแผงในตลาดย่านบางปะอิน อยุธยา ร้องกองปราบหลังถูกบริษัทเจ้าของตลาดไม่ทำตามสัญญา สุดท้ายปิดตลาดอ้างปรับปรุงจนทุกวันนี้ส่งผลให้ผู้ค้าประสบภาวะขาดทุนรวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ผู้ค้าแผงเช่าพื้นที่ในตลาดย่านบางปะอิน (ต่อยอด) ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมตัวกันเข้าร้องทุกข์กองปราบปราม หลังถูกบริษัทเจ้าของตลาดไม่ดำเนินการตามข้อตกลงในแผนการตลาด ทำให้ไม่มีคนเข้าไปเดินซื้อของ ต้องประสบภาวะขาดทุน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ผู้ค้า เล่าว่า ตลาดดังกล่าวเป็นของกลุ่มทุนธุรกิจเครื่องดื่มรายใหญ่ มีโครงการจะทำเป็นตลาดค้าส่งแหล่งใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 150 ไร่ มีการโฆษณาและชักจูงผู้ค้าให้มาเข่าพื้นที่ โดยระบุว่ามีแผนการตลาดอย่างสวยหรู เช่น จะจัดอีเว้นท์อย่างต่อเนื่อง และนำคณะทัวร์ชาวต่างประเทศมาลงที่ตลาด จนผู้ค้าเชื่อมั่นยอมลงทุนเข่าพื้นที่ตลาด โดยผู้เช่าต้องจ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน และค่าประกันความเสียหายร้าน
จากนั้นตัวแทนบริษัทที่บริหารงานตลาดก็เปิดให้ผู้ค้าเข้าไปตกแต่งร้าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ตลาดได้เปิดอย่างเป็นทางการ แต่หลังจากนั้นปรากฎว่าตลาดกลับเงียบเหงา ไม่มีคนเข้ามาซื้อของ ทางบริษัทที่บริหารงานตลาดไม่ได้ทำตามแผนการตลาด และประกาศปิดตลาดอย่างไม่มีกำหนดเพื่อปรับปรุง ส่งผลให้ผู้ค้าประสบภาวะขาดทุน มีผู้เสียหายกว่า 29 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาร้องทุกข์ที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่บริหารงานตลาด ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้สอบสวนเบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณารับคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย