ก.คลัง 27 มี.ค. – คลังอาเซียนเตรียมเชื่อมระบบชำระเงินผ่าน QR-Code ลดต้นทุนแลกเปลี่ยน ร่วมมือป้องกันภัยไซเบอร์ หนุนนำเข้าส่งออกสินค้าศุลกากรผ่าน Single Window จับมือปล่อยสินเชื่อโครงการดูแลสิ่งแวดล้อม
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า กระทรวงการคลังเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 23 การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 5 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2562 ณ จังหวัดเชียงราย
นายลวรณ กล่าวว่า เป้าหมายการประชุมครั้งนี้มุ่งหวังให้เกิดความร่วมมืออาเซียน Single Window เพื่อให้การอนุญาต นำเข้า ส่งออก ผ่านเข้ามากลุ่มอาเซียนที่ต้องยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อปฏิบัติตามมาตรฐานสากลแล้วไม่ต้องยื่นขออนุญาติซ้ำซ้อน ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน 9 ประเทศสะดวกมากขึ้น ส่วน สปป.ลาว กระทรวงการคลังเตรียมเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา เพื่อพัฒนาพิธีการศุลกากรไปพร้อมกัน รวมทั้งความร่วมมือทางการเงินเกี่ยวกับ Green Finance โดยมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เป็นแกนหลักสำคัญ เพื่อส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น หากมีการระดมทุนออกพันธบัตร โครงการที่นำเงินไปใช้เน้นดูแลสิ่งแวดล้อมจะได้รับความสนใจซื้อหน่วยลงทุน หรือเรียกว่า “กรีนบอนด์” ส่วนแบงก์ที่จะปล่อยกู้ หากโครงการใดเน้นดูแลสิ่งแวดล้อมจะได้รับพิจารณาปล่อยกู้
“อาเซียนเตรียมจับมือร่วมกันดูแลตลาดเงินดิจิทัล ทั้งการซื้อขายบิทคอย เพื่อรวมกันดูแลทรัพย์สินดิจิทัล การร่วมมือป้องกันดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์จากภัยคุกคามด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังจับมือระบบชำระเงินอาเซียน ทั้งผ่านระบบ QR-Code และระบบพร้อมเพย์ เชื่อมกับระบบ Paynow ของสิงคโปร์ เพื่ออำนวยการชำระเงินของกลุ่ม CLMVT ลดต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยน การชำระเงิน เบื้องต้นส่งเสริมให้ธนาคารพันธมิตรของประเทศเพื่อบ้านจับมือกัน จากนั้นค่อยขยายไปในวงกว้าง” นายลวรณ กล่าว
สำหรับการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 300 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลัง และธนาคารกลางอาเซียน+3 ผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้แก่ เอดีบี สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รวมทั้งผู้แทนจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่จะมีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน อาทิ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน สภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน และสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย