สูตรจัดตั้งรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขซับซ้อน

กทม. 22 มี.ค.-โค้งสุดท้าย พรรคการเมืองงัดกลยุทธ์ไพ่ตายสู้ศึก ขณะที่นักวิชาการวิเคราะห์สูตรพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขซับซ้อน


การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ 17 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ออกไปใช้สิทธิถึง 87% หากวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ ยังมีผู้มาใช้สิทธิเกิน 80% จะส่งผลให้อัตราส่วนที่เคยคำนวณไว้ว่า ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงได้รับ 1 คน ต่อผู้มาใช้สิทธิ 7 หมื่นคน ขยับขึ้นเป็นต่อผู้มาใช้สิทธิ 8 หมื่นคน คะแนนอีก 1 หมื่นเสียงที่เพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งแข่งขันกันดุเดือดขึ้น 

นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า วิเคราะห์ตัวเลขผู้มาใช้สิทธที่เพิ่มขึ้น น่าจะมาจากทั้งผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ first voter และผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิแต่ครั้งนี้ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเป็นครั้งแรก ทำให้การเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ คาดเดายาก แม้ภาพรวมประเมินว่าตัวเลข ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ เมื่อมีการจับขั้วการเมืองจะไม่ต่างจากก่อนเลือกตั้งล่วงหน้ามากนัก แต่เมื่อดูลงไปเป็นรายพรรค พบว่าบางพรรค ตัวเลขเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก 


เริ่มจากพรรคเพื่อไทย ก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า ประเมินไว้ที่ 120-180 ที่นั่ง หลังเลือกตั้งล่วงหน้าขยับเป็น 150-190 ที่นั่ง มุ่งไปที่การชนะ ส.ส.เขต มากกว่าปาร์ตี้ลิสต์


ขณะที่ประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐ ตัวเลข ส.ส. ยังสูสีกัน โดยก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า ประชาธิปัตย์น่าจะได้ 80-90 คนหลังเลือกตั้งล่วงหน้าขยับขึ้นมาเป็น 90-120 คน ส่วนพลังประชารัฐ ก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า ประเมินตัวเลข ส.ส.ไว้ที่ 60 -80 คน หลังเลือกตั้งล่วงหน้า 80-110 คน

แต่ที่น่าจับตาคือพรรคอนาคตใหม่ ที่พบว่าคะแนนเสียงพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตามเป็นอันดับ 4 อาจได้ ส.ส.มากถึง 50-70 ที่นั่ง จากที่ไม่หวังจะได้ ส.ส.เขต เบียดแซงหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่คาดว่าจะได้ ส.ส. 40-50 ที่นั่ง แม้จะเป็นตัวเลขที่สูงกว่าก่อนเลือกตั้งล่วงหน้าก็ตาม

และนี่ทำให้แต่ละพรรคต้องงัดไพ่ตายกลยุทธ์ในการหาเสียงโค้งสุดท้ายขึ้นมาสู้กันอย่างเต็มที่ แม้ยังไม่เห็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายก ขึ้นเวทีพรรคพลังประชารัฐด้วยตัวเอง แต่ก็มีการเปิดคลิปปราศรัยบ่อยขึ้น ขึ้นป้ายหาเสียง รุกสื่อโซเชียล

ประชาธิปัตย์ เน้นย้ำนโยบายให้ชัดมากขึ้น หวังสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ส่วนเพื่อไทยจากที่เน้นโจมตีรัฐบาล หันกลับมาตอกย้ำความเป็นพรรค เน้นนโยบายกลุ่มเป้าหมายในต่างจังหวัด และหวังฐานเสียงกลุ่มคนรุ่นใหม่

อนาคตใหม่ที่ดูจะค่อนข้างได้เปรียบ เป็นพรรคในกระแสที่กำลังมาแรง ยังคงย้ำจุดยืนอนาคตทางการเมืองหลังเลือกตั้งมากกว่าเน้นเลือกตัวบุคคล

ที่น่าจับตาคือสูตรจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง หากเป็นไปตามตัวเลขที่มีการประเมิน อาจมีการเขย่าสมาการ 3 ก๊ก 2 ขั้วการเมือง แม้ตัวเลข ส.ส.ระหว่าง ขั้วพรรคเพื่อไทยกับพรรคพันธมิตร กับขั้วพรรคประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐ น่าจะยังใกล้เคียงกัน แต่จะต่างกันที่เงื่อนไข 

แม้อนาคตใหม่เป็นพรรคพันธมิตรกับเพื่อไทย แต่หัวหน้าพรรคประกาศสนับสนุนแคนดิเดตนายกที่เป็น ส.ส.เท่านั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยเน้นชนะ ส.ส.เขต หากได้ ส.ส.เขตเกิน 150 ที่นั่ง อาจไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขณะที่แคนดิเดตนายกทั้ง 3 คนของเพื่อไทย อยู่ในรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็จะกลายเป็น ส.ส.สอบตกทันที และจะติดล็อคเงื่อนไขที่อนาคตใหม่ประกาศไว้

ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และพร้อมลาออกหากพรรคได้ ส.ส.ไม่ถึง 100 คน นั่นหมายความว่าหาก ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.มากกว่า 100 ที่นั่ง และมากกว่าพลังประชารัฐ จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ และภายใต้เงื่อนไขใด ใครจะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และยังมีตัวแปรสำคัญอย่างภูมิใจไทย ที่คาดว่าจะจับมือกับขั้วที่จัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเสนอเงื่อนไขใดในการเข้าร่วมรัฐบาล แต่หากยังไม่สามารถจับมือกันได้อย่างลงตัว มีการประเมินว่าอาจได้เห็นรัฐบาลผสมขนาดใหญที่มีคะแนนเสียง มากกว่า 375 -400 เสียง แต่ไม่ว่าโฉมหน้ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะออกมาในรูปแบบไหน หรือใครจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นักวิชาการเชื่อว่าต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดไม่ต่ำกว่า 2 เดือน หลังการรับรองผลการเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน “เหนือ กลาง ตะวันออก” มีฝนตกบางแห่ง อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”