“MCOT” จับมือ “ETDA” เดินหน้าสร้างนวัตกรรมสื่อ

สำนักข่าวไทย 22 มี.ค.-“MCOT” จับมือ “ETDA” เดินหน้าสร้างนวัตกรรมสื่อ ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรม Digital Content และ Digital Platform “WHAM”


MCOT องค์กรสื่อชั้นนำ ร่วมกับ ETDA พันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับชาติ สร้างนวัตกรรมสื่อ เพื่อคนไทย ชูจุดแข็งสองหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งด้านคอนเทนต์เทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยถึงความร่วมมือว่า “เป็นการดำเนินการตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศไทยที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ตามกลยุทธ์ Productive Growth Engine พร้อมประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน หรือ Collaborative Network เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศไทย 4.0

MCOT ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ที่นำเสนอข้อมูล ข่าวสารและสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์สังคม ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมเนื้อหาดิจิทัล (Digital Content) และสนับสนุนการพัฒนาช่องทางการเผยแพร่หรือถ่ายทอด Digital Content ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต (Internet Platform) จึงได้ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อร่วมพัฒนา Digital Content และ Digital Platform  เพื่อคนไทย  “WHAM”  จะนำเสนอความบันเทิงที่หลากหลาย ทั้งดนตรี สาระแรงบันดาลใจ ความรู้ที่น่าสนใจ สำหรับคนรุ่นใหม่” นอกจากนี้ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ จะมีการร่วมกันพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงานด้วย 


ด้านนางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการและสิทธิในโครงสร้างระบบโครงการ Digital Platform “WHAM” ระหว่างสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เกิดความรู้ ความเข้าใจใน Creative Commons กับการปกป้องสิทธิ ในทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ และสนับสนุนให้มีการทำ e-Commerce ในกลุ่มอุตสาหกรรม Digital Content 

ความร่วมมือ ระหว่าง MCOT และ ETDA ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสื่อของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ เพื่อสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีและเพื่อป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรม Digital Content และสนับสนุนการพัฒนาช่องทางการเผยแพร่หรือถ่ายทอด Digital Content ผ่าน Digital Platform ในชื่อ “WHAM”  โดยทาง ETDA และ MCOT ร่วมกันแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลทางวิชาการ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูล (Data Analytics) โดยทาง ETDA เป็นผู้ให้การสนับสนุนในการพัฒนา Digital Platform ส่วน MCOT จะพัฒนาและบริหารจัดการ Digital Content ซึ่งถือเป็น e-commerce ประเภทหนึ่งที่ไม่ขึ้นกับฤดูกาล รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ บน Platform นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงและสร้างสรรค์ content 

“จากผลสำรวจตัวเลขอีคอมเมิร์ชของ ETDA  พบว่า ยอดการทำอีคอมเมิร์ชในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนดิจิทัลที่เลือกใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงความบันเทิง ทำให้อุตสาหกรรมเพลง และ e-Movie เข้ามาเป็น 3 อันดับแรกของประเภทสินค้าและบริการที่มีมูลค่าอีคอมเมิร์ชสูงสุดในกลุ่มศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ  ETDA จึงมองเห็นโอกาสในการใช้  Digital Platform ร่วมกับ MCOT เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมี Platform เป็นของตัวเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอีคอมเมิร์ช ในกลุ่มอุตสาหกรรม Digital Content ได้ทัดเทียมในระดับสากล” นางสุรางคณา กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ETDA มีภารกิจหลักในการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ของประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้อำนวยความสะดวกในการให้บริการภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งต้องสอดคล้องตามกฎหมาย มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง และมีความมั่นคงปลอดภัย รวมถึงการศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ MCOT ก็มีพันธกิจหลัก ในการนำเสนอและส่งเสริมเนื้อหาและสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างการรับรู้ต่อสังคม สร้างความเชื่อมั่นและสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ผ่านทุกช่องทางที่ MCOT มีอยู่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายอำนวยการ บมจ. อสมท  โทร 02 201 6162 วีระวรรณ (ปุ๋ม) 086 103 2257, ปกศร (ตรอง) 092 492 2995, ภริตพร (ปุ้ย) 089 555 0211 ทิพย์สุดา (แพร) 083 784 3171 ส่วนงานประชาสัมพันธ์และ CSR สำนักสื่อสารองค์กร ETDA / Email : pr@etda.or.th ชลธิชา (จอย) 081 827 5922 , กริช (กิ๊ชชี่) โทร. 084 186 4828 , พรรณวดี (ดรีม) 064 946 1985

**************************

MCOT joins ETDA to Create Media Innovation

To Drive the Development of Digital Content and the Digital Platform “WHAM”

MCOT Public Company Limited (MCOT Plc.) is partnering with Electronic Transactions Development Agency (Public Organization) (ETDA) to synergize the strengths of both organizations in content, technologies and experienced teams to launch a new digital media platform for Thais. 

Mr. Kematat  Paladesh, President of MCOT, says that the collaboration between ETDA and MCOT is in line with the government’s Thailand’s 4.0 policy focusing on restructuring the Country’s economics to develop a creativity and innovation-driven economy that will allow Thailand to shift from middle to high-income country through the implementation of Productive Growth Engine and Collaborative Network Strategies.

“Recognizing the importance of digital content and platform development, MCOT, in its capacity as a state-owned media organization committed to delivering accurate and reliable news and high quality content,  is joining hands with ETDA, Thailand’s main agency whose expertise lies in information technology and electronic transactions to develop “Digital Content and the Digital Platform “WHAM” for  Thais.  “WHAM” will offer a wide range of entertainment content with a focus on music for the younger generation. This collaboration also extends to that in the area of human resource development between the two organizations.”, says Kematat.  

Mrs. Surangkana Wayuparb, Executive Director and CEO of ETDA, Ministry of Digital Economy and Society discloses that the Memorandum of Understanding on Management and Rights in the Digital Platform “WHAM” between MCOT and ETDA aims to raise awareness and understanding in “Creative Commons” and intellectual property protection among the operators and the general public and promote e-commerce in the digital content industry. 

“The MOU signing ceremony between ETDA and MCOT today reflects the collaboration between government agencies in leveraging emerging technologies to develop media innovation. The collaboration aims to set standards on technological security and prevent intellectual property infringement with a focus on developing “Digital Content” disseminated through the newly launched Digital Platform “WHAM”. In addition, the exchanges of academic information, hands-on experiences and technologies related to data analytics management are included under this partnership. 

As such, ETDA will support the development of the Digital Platform “WHAM” while MCOT will be responsible for developing and managing “Digital Content, a type of non-seasonal e-commerce as well as arranging activities on this platform whereupon the access and opportunities for content creation are provided.

According to ETDA’s e-commerce data surveys, a continuous growth of e-commerce in the digital industry was found due to preference of digital users on accessing entertainment content via the Internet. This has enabled music and e-movies to be among the top three highest e-commerce values in the category of art, entertainment and recreation.  Seeing an opportunity to jointly develop and use this digital platform with MCOT in an attempt to establish Thailand’s digital platform to enhance our e-commerce competitiveness in the digital content industry to meet international standards”, says Mrs. Surangkana.

The main missions of ETDA are to develop and promote safe and secure electronic transactions in the Country through the use of new technologies to facilitate service provision of both private and public sectors, in accordance with related laws and international standards, conduct studies and researches as well as develop information technologies and communications relating to electronic transactions.  As for MCOT, its mission is to promote useful content creation to raise public awareness and project a positive image of the Country through all MCOT’s available media platforms to effectively meet the needs of its prospective target audiences.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย