“สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน

ก.คลัง 18 มี.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ แนะเคลียร์เส้นทางจราจร หากสร้างรถไฟฟ้าบางช่วงคืบหน้า 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประชุมติดตามความคืบหน้าแผนดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ว่า รัฐวิสาหกิจนับเป็นกำลังหลักสำคัญการบริหาร 4 ปีที่ผ่านมา จึงพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงโน้มน้าวให้หลายองค์กรร่วมกันปฏิรูปประเทศ ยอมรับว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่เป็นไปไม่ได้จะทำให้ทุกคนยอมรับ จึงต้องหาสมาร์ทฟาร์มเมอร์เป็นตัวอย่างในชุมชน เมื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จะทำให้หลายคนในชุมชนยอมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยต้องสร้างต้นแบบ จึงมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยสร้างหัวขบวน เปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการทำงาน สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงิน การคลัง ทุกหน่วยงานต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์วางไว้ร่วมกัน แต่หากเดินไปคนละทาง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง หากนโยบายเศรษฐกิจขัดแย้งกันคงลำบาก ดังนั้น อนาคตแขนทั้งสองข้างด้านการเงินการคลังต้องร่วมกันเดินทางคิดที่เหมาะกับประเทศไทย 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าแบงก์รัฐ ทั้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมมือกันอย่างดีในการดูแลผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการ  ในส่วนของธนาคารออมสินเดิมเน้นส่งเสริมการออม แต่เมื่อมีทุนเพียงพอแล้วต้องให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนตั้งตัวได้ ธอส.เป็นผู้นำรุ่นใหม่ประกาศเดินหน้าโครงการบ้านล้านหลังขอให้ขับเคลื่อนต่อไป สำหรับการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลกำหนดเป้าหมายปี 2563 ระบบ 5 จี ต้องคืบหน้าเห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วงการเปลี่ยนแปลงต้องให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นแรงจูงใจให้กับภาคเอกชนสร้างการเปลี่ยนผ่านในการลงทุน  


นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงที่ประชุม ว่า แผนลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า วงเงิน 1.1 ล้านล้านบาท ขณะนี้รัฐบาลอนุมัติก่อสร้างรถไฟทางคู่ 900 กิโลเมตร นับว่าเป็นการสร้างเส้นทางรถไฟสูงสุดในรอบ 68 ปีที่ผ่านมา และยังพร้อมขยายแผนก่อสร้างเชื่อมโยงจากเมืองหลักไปยังเมืองรองได้มากขึ้น  สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน เจรจาเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ลงนามสัญญาสุดท้ายเดือนเมษายน  ในส่วนของความคืบหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากเจรจาอีกรอบในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) คาดว่าปลายเดือนมีนาคม รฟท.และซีพีเจรจาได้ข้อสรุปชัดเจน 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงว่า แผนก่อสร้างรถไฟฟ้า ระยะทาง 500 กิโลเมตร กำหนดสร้างเสร็จปี 2572 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ 43 กิโลเมตร รองรับเดินทางของประชาชน 360,000 คนต่อวัน คาดว่าปี 2572 ระยะทางก่อสร้างรถไฟฟ้าถึง 215 กิโลเมตร รองรับการเดินทางชองประชาชน 2.74 ล้านคนต่อวัน นายสมคิด แนะนำว่าแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ เพียงพอแล้ว หากเส้นทางใดก่อสร้างคืบหน้ามากแล้ว ควรขยับเส้นทางที่ก่อสร้างเสร็จ เพื่อคืนระบบจราจรให้กับประชาชนได้สัญจรลดปัญหาจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และควรขยายการลงทุนไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เพราะขณะนี้เมืองเติบโตมีปัญหาจราจรติดขัด 

ในส่วนของ บมจ.ปตท. รองนายกรัฐมนตรีเสนอให้ช่วยเหลือด้านสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน เพื่อเป็นจุดส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญในพื้นที่มีศักยภาพการร่วมลงนามกับกรมสงเสริมวิชาการเกษตรร่วมผลิตปุ๋ย เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร เพราะขณะนี้ต้นทุนปุ๋ยสูงถึงร้อยละ 30 ของต้นทุนทั้งหมด เร่งรัดการก่อสร้างห้องเย็นขนาดใหญ่ในภาคตะวันออก ด้วยการนำความเย็นจากโรงกลั่นมาผลิตห้องเย็น ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และภาคใต้ 


นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่า  ทีโอที ชี้แจงว่า หลังจากรัฐบาลส่งเสริมโครงการอินเทอร์เน็ตประชารัฐ ทำให้ค่าบริการลดลงร้อยละ 65 ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และยังทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมากขึ้น ทีโอทียังเดินหน้าติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกความเร็วสูงเชื่อมโยงกับต่างประเทศ รองรับ One Belt One Road ของจีน ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  ขณะที่ กสท โทรคมนาคม ได้กำหนดให้บริการฟรีไวไฟ รองรับการใช้บริการของประชาชนและนักท่องเที่ยว 40,000 จุดในย่านชุมชนทั่วประเทศ การติดตั้งโครงข่าย IOT ต้องเสร็จภายในสิ้นปี 2562 รองรับบริการส่งข้อมูลของภาคเอกชน  การเดินหน้าพัฒนาดิจิทัลปาร์ค สร้างแรงงานคุณภาพ 25,000 ตำแหน่ง รองรับบริการเศรษฐกิจดิจิทัลในเขตอีอีซี 

นายสมคิด ย้ำว่าอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ รัฐบาลต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หลายฝ่ายต้องการสูงมาก ต้องดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะอนาคตต้องการร่วมมือหลายฝ่ายมาช่วยเปลี่ยนผ่าน เพื่อพัฒนาให้เร็วที่สุด เพราะอีก 4 ปีข้างหน้าต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อปรับตัวให้ทันสถานการณ์ 

ส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ  ธ.ก.ส. ชี้แจงที่ประชุมว่า การลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.45 ล้านราย ธ.ก.ส.รับผิดชอบดูแล 7.7 ล้านราย มีจำนวน 2.7 ล้านราย เข้าร่วมการพัฒนาฝึกอบรมอาชีพ และทำให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นจากเส้นความยากจน 880,000 คน นับว่ามีสัดส่วนถึงร้อยละ 51   สำหรับเอสเอ็มอีแบงก์ยังมุ่งเน้นสร้างโอากสให้กับเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก หลังจากปี 2552-2557 ปล่อยสินเชื่อเฉลี่ย 3 ล้านบาท ได้ลดลงเหลือ 1.7 ล้านบาทต่อราย เน้นการให้ความรู้คู่กับการเติมทุน การทำบัญชีการเงินบัญชีเดียว 24,000 ราย 

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายว่า หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายหลากหลายด้านเต็มไปหมดเหมือนกับว่ารัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการอะไรเลย แต่ที่จริงแล้วหลายมาตรการหลายโครงการออกมาเยอะมาก ผ่านหลายหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เช่น โครงการบ้านล้านหลัง โดยรัฐบาลพร้อมอุดหนุนความเสี่ยง เพื่อให้ชาวบ้านรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย การให้ ธ.ก.ส.ดูแลเกษตรกร ออมสินดูแลชาวบ้าน ร้านค้ารายย่อย และเอสเอ็มอีแบงก์ช่วยดูแลเงินทุนให้ผู้ประกอบการ เข้าให้ถึงแหล่งทุนมากขึ้น หากให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อคงลำบาก  การพักหนี้เพื่อให้ปฏิรูปภาคเกษตรไม่ใช่พักหนี้เพื่อให้เกษตรกรเสียวินัยการเงิน 

การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ร้านโชห่วยขายสินค้าจำเป็นในชุมชน 40,000-50,000 ราย ฟื้นตัวได้จากเดิมใกล้ปิดตัว เพราะเจอกับโมเดิร์นเทรด ขณะนี้เริ่มดีขึ้น วางระบบออนไลน์ลูกหลานมาช่วยพัฒนาร้าน นับเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือชุมชน โดยแบงก์รัฐพร้อมเข้าไปเติมทุนให้กับร้านโชห่วย และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ  กระทรวงกาคลังยืนยันว่าทุกโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ต้องมีผลตอบแทนกับส่วนรวมชัดเจน  และรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ไม่มีมั่วนิ่ม จึงกำหนดให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกินร้อยละ 60 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย