“สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน

ก.คลัง 18 มี.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ แนะเคลียร์เส้นทางจราจร หากสร้างรถไฟฟ้าบางช่วงคืบหน้า 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประชุมติดตามความคืบหน้าแผนดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ว่า รัฐวิสาหกิจนับเป็นกำลังหลักสำคัญการบริหาร 4 ปีที่ผ่านมา จึงพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงโน้มน้าวให้หลายองค์กรร่วมกันปฏิรูปประเทศ ยอมรับว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่เป็นไปไม่ได้จะทำให้ทุกคนยอมรับ จึงต้องหาสมาร์ทฟาร์มเมอร์เป็นตัวอย่างในชุมชน เมื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จะทำให้หลายคนในชุมชนยอมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยต้องสร้างต้นแบบ จึงมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยสร้างหัวขบวน เปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการทำงาน สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงิน การคลัง ทุกหน่วยงานต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์วางไว้ร่วมกัน แต่หากเดินไปคนละทาง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง หากนโยบายเศรษฐกิจขัดแย้งกันคงลำบาก ดังนั้น อนาคตแขนทั้งสองข้างด้านการเงินการคลังต้องร่วมกันเดินทางคิดที่เหมาะกับประเทศไทย 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าแบงก์รัฐ ทั้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมมือกันอย่างดีในการดูแลผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการ  ในส่วนของธนาคารออมสินเดิมเน้นส่งเสริมการออม แต่เมื่อมีทุนเพียงพอแล้วต้องให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนตั้งตัวได้ ธอส.เป็นผู้นำรุ่นใหม่ประกาศเดินหน้าโครงการบ้านล้านหลังขอให้ขับเคลื่อนต่อไป สำหรับการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลกำหนดเป้าหมายปี 2563 ระบบ 5 จี ต้องคืบหน้าเห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วงการเปลี่ยนแปลงต้องให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นแรงจูงใจให้กับภาคเอกชนสร้างการเปลี่ยนผ่านในการลงทุน  


นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงที่ประชุม ว่า แผนลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า วงเงิน 1.1 ล้านล้านบาท ขณะนี้รัฐบาลอนุมัติก่อสร้างรถไฟทางคู่ 900 กิโลเมตร นับว่าเป็นการสร้างเส้นทางรถไฟสูงสุดในรอบ 68 ปีที่ผ่านมา และยังพร้อมขยายแผนก่อสร้างเชื่อมโยงจากเมืองหลักไปยังเมืองรองได้มากขึ้น  สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน เจรจาเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ลงนามสัญญาสุดท้ายเดือนเมษายน  ในส่วนของความคืบหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากเจรจาอีกรอบในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) คาดว่าปลายเดือนมีนาคม รฟท.และซีพีเจรจาได้ข้อสรุปชัดเจน 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงว่า แผนก่อสร้างรถไฟฟ้า ระยะทาง 500 กิโลเมตร กำหนดสร้างเสร็จปี 2572 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ 43 กิโลเมตร รองรับเดินทางของประชาชน 360,000 คนต่อวัน คาดว่าปี 2572 ระยะทางก่อสร้างรถไฟฟ้าถึง 215 กิโลเมตร รองรับการเดินทางชองประชาชน 2.74 ล้านคนต่อวัน นายสมคิด แนะนำว่าแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ เพียงพอแล้ว หากเส้นทางใดก่อสร้างคืบหน้ามากแล้ว ควรขยับเส้นทางที่ก่อสร้างเสร็จ เพื่อคืนระบบจราจรให้กับประชาชนได้สัญจรลดปัญหาจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และควรขยายการลงทุนไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เพราะขณะนี้เมืองเติบโตมีปัญหาจราจรติดขัด 

ในส่วนของ บมจ.ปตท. รองนายกรัฐมนตรีเสนอให้ช่วยเหลือด้านสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน เพื่อเป็นจุดส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญในพื้นที่มีศักยภาพการร่วมลงนามกับกรมสงเสริมวิชาการเกษตรร่วมผลิตปุ๋ย เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร เพราะขณะนี้ต้นทุนปุ๋ยสูงถึงร้อยละ 30 ของต้นทุนทั้งหมด เร่งรัดการก่อสร้างห้องเย็นขนาดใหญ่ในภาคตะวันออก ด้วยการนำความเย็นจากโรงกลั่นมาผลิตห้องเย็น ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และภาคใต้ 


นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่า  ทีโอที ชี้แจงว่า หลังจากรัฐบาลส่งเสริมโครงการอินเทอร์เน็ตประชารัฐ ทำให้ค่าบริการลดลงร้อยละ 65 ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และยังทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมากขึ้น ทีโอทียังเดินหน้าติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกความเร็วสูงเชื่อมโยงกับต่างประเทศ รองรับ One Belt One Road ของจีน ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  ขณะที่ กสท โทรคมนาคม ได้กำหนดให้บริการฟรีไวไฟ รองรับการใช้บริการของประชาชนและนักท่องเที่ยว 40,000 จุดในย่านชุมชนทั่วประเทศ การติดตั้งโครงข่าย IOT ต้องเสร็จภายในสิ้นปี 2562 รองรับบริการส่งข้อมูลของภาคเอกชน  การเดินหน้าพัฒนาดิจิทัลปาร์ค สร้างแรงงานคุณภาพ 25,000 ตำแหน่ง รองรับบริการเศรษฐกิจดิจิทัลในเขตอีอีซี 

นายสมคิด ย้ำว่าอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ รัฐบาลต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หลายฝ่ายต้องการสูงมาก ต้องดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะอนาคตต้องการร่วมมือหลายฝ่ายมาช่วยเปลี่ยนผ่าน เพื่อพัฒนาให้เร็วที่สุด เพราะอีก 4 ปีข้างหน้าต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อปรับตัวให้ทันสถานการณ์ 

ส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ  ธ.ก.ส. ชี้แจงที่ประชุมว่า การลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.45 ล้านราย ธ.ก.ส.รับผิดชอบดูแล 7.7 ล้านราย มีจำนวน 2.7 ล้านราย เข้าร่วมการพัฒนาฝึกอบรมอาชีพ และทำให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นจากเส้นความยากจน 880,000 คน นับว่ามีสัดส่วนถึงร้อยละ 51   สำหรับเอสเอ็มอีแบงก์ยังมุ่งเน้นสร้างโอากสให้กับเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก หลังจากปี 2552-2557 ปล่อยสินเชื่อเฉลี่ย 3 ล้านบาท ได้ลดลงเหลือ 1.7 ล้านบาทต่อราย เน้นการให้ความรู้คู่กับการเติมทุน การทำบัญชีการเงินบัญชีเดียว 24,000 ราย 

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายว่า หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายหลากหลายด้านเต็มไปหมดเหมือนกับว่ารัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการอะไรเลย แต่ที่จริงแล้วหลายมาตรการหลายโครงการออกมาเยอะมาก ผ่านหลายหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เช่น โครงการบ้านล้านหลัง โดยรัฐบาลพร้อมอุดหนุนความเสี่ยง เพื่อให้ชาวบ้านรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย การให้ ธ.ก.ส.ดูแลเกษตรกร ออมสินดูแลชาวบ้าน ร้านค้ารายย่อย และเอสเอ็มอีแบงก์ช่วยดูแลเงินทุนให้ผู้ประกอบการ เข้าให้ถึงแหล่งทุนมากขึ้น หากให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อคงลำบาก  การพักหนี้เพื่อให้ปฏิรูปภาคเกษตรไม่ใช่พักหนี้เพื่อให้เกษตรกรเสียวินัยการเงิน 

การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ร้านโชห่วยขายสินค้าจำเป็นในชุมชน 40,000-50,000 ราย ฟื้นตัวได้จากเดิมใกล้ปิดตัว เพราะเจอกับโมเดิร์นเทรด ขณะนี้เริ่มดีขึ้น วางระบบออนไลน์ลูกหลานมาช่วยพัฒนาร้าน นับเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือชุมชน โดยแบงก์รัฐพร้อมเข้าไปเติมทุนให้กับร้านโชห่วย และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ  กระทรวงกาคลังยืนยันว่าทุกโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ต้องมีผลตอบแทนกับส่วนรวมชัดเจน  และรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ไม่มีมั่วนิ่ม จึงกำหนดให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกินร้อยละ 60 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]